ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ต่อเนื่อง จากระดับ 1,331.85 เหรียญสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่บริเวณ 1,328.10 เหรียญสหรัฐ (ณ วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2559 เวลา 11.06 น.) หรือปรับลดลงประมาณ 3.75 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่ระหว่างสัปดาห์มีการปรับลงไปถึง 1,310.74 เหรียญสหรัฐ
ราคาทองคำระหว่างสัปดาห์ทำจุดต่ำสุดสูงสุดไว้ระหว่างราคา 1,310.74-1,338.22 เหรียญสหรัฐ โดยช่วงต้นสัปดาห์ดอลลาร์แข็งค่ามาก กดดันราคาทองคำปรับลง แต่หลังจากช่วงกลางสัปดาห์ ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิม และยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมา ทำให้ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อย และส่งผลบวกต่อราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ให้เด้งกลับขึ้นมาได้บ้าง จนกลับมาติดลบเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ประธานธนาคารกลางยุโรปจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0 เปอร์เซ็นต์ และยังคงวงเงินการซื้อพันธบัตรไว้ที่ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน แต่ นายมาริโอ้ ดรากี้ประธาน ECB ยังส่งสัญญาณว่า พร้อมจะใช้เครื่องมือทางการเงินทุกชนิดเพื่อทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้นหากถูกกระทบจากเหตุการณ์ Brexit หรือที่อังกฤษได้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ระดับ 34.910 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ 34.920 บาทต่อดอลลาร์ หรืออ่อนค่าลงประมาณ 0.01 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น ราคายืนเหนือ 1,310 เหรียญสหรัฐ แนวรับสำคัญได้ ซึ่งหากได้สะสมทองคำมาหลังจากที่ยืนแนวรับดังกล่าวได้ แนะนำให้รอเป้าหมายรายปีที่ 1,390-1,395 เหรียญสหรัฐต่อไปเพื่อขายทำกำไร
ส่วนระยะยาว ยังแนะนำให้สะสมทองคำแท่งราคาต่ำกว่า 1,200 เหรียญสหรัฐได้ โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกยังคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ หรือดอกเบี้ยติดลบ และความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะมีมากขึ้น โดยเป้าหมายภายในปีนี้ปรับขึ้นไปอยู่บริเวณ 1,390 เหรียญสหรัฐ (ในกรณียืนเหนือ 1,310 เหรียญสหรัฐได้)
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก