บล.เคที ซีมิโก้ คาดหุ้นไทยรีบาวนด์ตามตลาดต่างประเทศ ขณะที่ KTBST มองแนวโน้ม SET น่าจะมีโอกาสเดินหน้าต่อได้ แต่คงไปได้ไม่แรงนัก โดยจะเป็นในลักษณะ sideway พร้อมให้กรอบ 1,445-1,458 ส่วนตลาดต่างประเทศฟื้นอาจเป็นผลบวกไม่มากนัก นักลงทุนส่วนใหญ่ยังวิตก Brexit แนะระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (7 ก.ค.) คาดว่าจะรีบาวนด์ขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวก หลังตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น โดยตลาดเอเชียยังได้ประโยชนฺ์จากเม็ดเงินทุนไหลเข้ามาด้วย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วย ทำให้ไปช่วยหนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงานที่จะช่วยผลักดันดัชนีฯ ได้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่านักลงทุนคงจะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวอยู่ โดยคงจะเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่ปรับตัวลงไปแรงในช่วงก่อนหน้านี้ และหุ้น บมจ.ช.การช่าง (CK) ก็คาดว่า จะได้แรงหนุนจากความคืบหน้าโครงการไซยะบุรี อีกทั้งนักลงทุนคงจะมาเลือกเล่นหุ้นเก็งผลประกอบการในไตรมาส 2/59 ที่จะออกมาด้วย
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) วันนี้ แม้จะมีโอกาสเดินหน้าต่อ แต่จะได้ไม่แรงนัก กรอบการเคลื่อนไหวจะเป็นในลักษณะ sideway มากกว่า มองกรอบดัชนีวันนี้ว่า 1,445-1,458 จุด
ทั้งนี้ การพลิกฟื้นของตลาดหุ้นต่างประเทศในคืนที่ผ่านมา เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อเรื่อง Brexit ยังมีอยู่ แต่การสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายๆ ตัวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา น่าจะเป็นปัจจัยที่ดูเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า โดยราคาน้ำมันที่ดีดกลับขึ้นมาหลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง พร้อมกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ด้านปัจจัยในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายและลงทุนของทั้งภาครัฐ-เอกชนที่คาดว่าจะสูงขึ้น อาจถูกกลบด้วยการขายของนักลงทุนต่างประเทศและสถาบันในประเทศในวันที่ผ่านมา
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน มองว่าตลาดยังเป็นบวก แต่จะผันผวนจากเรื่องของ Brexit กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ยังเป็นหุ้นกลุ่ม Domestic Play หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลงวดกลางปีที่จ่ายผลตอบแทนสูง (Dividend yield) และหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์บางตัว หุ้นที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ UNIQ BANPU PSL TPCH
นอกจากนี้ KTBST ยังคงแนะนำนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุนอาจพิจารณาทยอยขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ที่อาจเป็นเป้าหมายในการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างประเทศ และทยอยสะสมหุ้นขนาดกลาง และเล็กที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาดี ในด้านการจัดสรรสินทรัพย์ อาจเริ่มสะสมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และโครงสร้างพื้นฐาน หุ้นกู้เอกชนไทย ทองคำ และลดการลงทุนในเงินฝาก และน้ำมัน โดยยังคงมุมมองที่ชอบตลาดหุ้นเอเชีย ญี่ปุ่น และไทย มากกว่าตลาดหุ้นยุโรป หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นลาตินอเมริกา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 10.08 น. ดัชนีปรับไประดับ 1,461.72 จุด เพิ่มขึ้น 9.13 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.63% มูลค่าการซื้อขาย 6,049.38 ล้านบาท