ก.ล.ต.เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน 2 ราย รายละ 10 ปี ได้แก่ 1) นางสาวปณิตา อรรถเสรีวงศ์ เนื่องจากกระทำการโดยมิชอบต่อทรัพย์สินของลูกค้า ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น และรับมอบหมายในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนผู้ลงทุน และ นางสาวนิจวรรณ สิงห์คำ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อทรัพย์สินของลูกค้า ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง และยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้าโดยการถอนโอนย้ายหลักทรัพย์
จากกรณีที่นางสาวปณิตา ซึ่ง ก.ล.ต.ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นางสาวปณิตา ขณะกระทำผิดสังกัด บล.เมย์แบงก์ โดยได้จัดทำเอกสารสัญญาในนามของบริษัท และชักชวนลูกค้า 8 ราย ให้ฝากเงินเข้าบัญชีของบริษัท เพื่อลงทุนในโครงการลงทุนที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งนางสาวปณิตา ได้เปลี่ยนแปลงชื่อผู้ฝากเงินเป็นลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับตนเองอีกหลายราย แล้วนำเงินไปซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าดังกล่าว และถอนเงินออกจากบัญชีเพื่อประโยชน์ของตนเอง ทำให้ลูกค้าผู้โอนเสียหาย ซึ่ง บล.เมย์แบงก์ได้เลิกจ้าง และแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวปณิตา และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ในส่วนของกรณีของนางสาวนิจวรรณ ก.ล.ต.ได้รับรายงานการตรวจสอบจาก บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นางสาวนิจวรรณ ขณะกระทำผิดสังกัด บล.ไทยพาณิชย์ ได้ลงลายมือชื่อเป็นทั้งลูกค้าผู้โอน และลูกค้าผู้รับโอน แล้วโอนหลักทรัพย์ออกจากบัญชีลูกค้าผู้โอนไปยังบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าผู้รับโอน ซึ่งเป็นผู้มีความสัมพันธ์กับนางสาวนิจวรรณ รวมทั้งระบุหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองในเอกสารการโอน เพื่อให้บริษัทใช้ยืนยันรายการ ต่อมาได้ขายหลักทรัพย์ออกจากบัญชีลูกค้าผู้รับโอน และให้ลูกค้ารายดังกล่าวโอนเงินให้ตนเอง ส่งผลให้ลูกค้าผู้โอนได้รับความเสียหาย ซึ่ง บล.ไทยพาณิชย์ ได้เลิกจ้างนางสาวนิจวรรณ และให้ชดใช้หลักทรัพย์คืนลูกค้าทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการกระทำของนางสาวปณิตา และนางสาวนิจวรรณ เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต กระทำการโดยมิชอบต่อทรัพย์สินของลูกค้าโดยมีเจตนาปิดบัง อำพรางซ่อนเร้น สร้างหลักฐานเท็จ ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น นอกจากนี้ นางสาวปณิตา ยังรับมอบหมายในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนผู้ลงทุน ขณะที่นางสาวนิจวรรณ มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ลงทุน โดยการเบิกถอนโอนย้ายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนด้วย บุคคลทั้งสองฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต.จึงสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนางสาวปณิตา และนางสาวนิจวรรณ เป็นเวลา 10 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 แต่เนื่องจากอายุการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนางสาวปณิตา สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และไม่ได้ต่ออายุการให้ความเห็นชอบ จึงกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไปเมื่อพ้น 10 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559
นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวเตือนผู้ลงทุนว่า “ลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ควรระมัดระวัง และไม่ยินยอมให้ผู้แนะนำการลงทุนมาใช้บัญชีของตนเอง เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการกระทำผิด หรืออาจถูกดำเนินคดีร่วมกับผู้แนะนำการลงทุนได้ หากผู้แนะนำการลงทุนมาขอนำหุ้น หรือโอนเงินเข้าบัญชี โดยไม่ใช่หุ้น หรือเงินของตนเองควรปฏิเสธการกระทำดังกล่าว”
อย่างไรก็ดี ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ได้พิจารณาลงโทษนางสาวปณิตา ไม่ปฏิบัติตามข้อ 20 (1) และ 20 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่องการให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 เป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 6(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ/น/ข. 37/2553 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ 23(1) และ (2) และเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 (ประกาศ ทลธ. 8/2557) ที่ใช้บังคับแทนประกาศทั้งสองฉบับดังกล่าว
ขณะที่นางสาวนิจวรรณ ไม่ปฏิบัติตามข้อ 23(1) และ 23(2) ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศ ทลธ. 8/2557