รองนายกฯ แนะเอกชนสร้างผู้ประกอบการ Startup ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ยืนยันชัดแม้เศรษฐกิจดีขึ้น ก็ยังไม่เหมาะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่า 7% ยกบทเรียนในญี่ปุ่นขึ้นแวต ส่งผลให้เศรษฐกิจชะงัก และเป็นปัญหาจนถึงปัจจุบัน พร้อมสั่งคลังศึกษาแรงจูงใจจ้างคนชราทำงานหลังวัยเกษียณ เพื่อต้องการดูแลสังคม และดูแลสถาบันครอบครัว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการจัดประชุมระดมความคิดเห็น “ร่วมมือกันผลักดันสู่เป้าหมาย” เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในการจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และยุติความยากจน ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาอย่างยั่งยืนและวิสัยทัศน์ของประเทศไทยภายใต้ประชารัฐ” โดยระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มการขยายตัวดีขึ้น แต่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากปัจจุบันจัดเก็บในอัตราร้อยละ 7 เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม โดยจะครบกำหนดในสิ้นเดือนกันยายน 59 เห็นได้จากบทเรียนของญี่ปุ่น หลังจากได้ปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะงัก และเป็นปัญหาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับการดูแลด้านสังคมให้เกิดความยั่งยืน ลดปัญหาของสังคมตะวันตก บุตรหลานมักละทิ้งคนชรา ขณะที่ญี่ปุ่น แม้จะสร้างชุมชนอยู่อาศัยให้คนชรา แต่คนชราไม่พอใจ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะไม่มีกิจกรรม หรือมีส่วนร่วมทางสังคม รัฐบาลไทยจึงต้องการสร้างความยั่งยืนทางสังคม ไม่ใช่เพียงให้คนชราการรอรับเบี้ยคนชรา 500-600 บาทต่อเดือน เท่านั้น เพื่อต้องการดูแลสังคม การดูแลสถาบันครอบครัว และศึกษาการขยายกรอบการเกษียณอายุออกไปด้วย จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาแรงจูงใจทางภาษี เพื่อสร้างงานให้กับผู้สูงอายุ หรือคนวัยเกษียณ เพื่อออกจากงานไปแล้ว เพื่อให้บริษัทเอกชนนำค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน หรือกิจกรรมหักลดหย่อนภาษี คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ยังต้องการให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ อย่างเช่น ยูนิลีเวอร์ประเทศไทย ส่งเสริมผู้ประกอบการ Startup เนื่องจากผู้ประกอบการรายเล็ก หรืออิสระ เริ่มมีความสำคัญต่อโครงสร้างเศรษฐกิจ เพราะหลายประเทศเริ่มพึ่งพาผู้ประกอบการ Startup เช่น เกาหลี ซึ่งกำลังปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ขณะที่ญี่ปุ่นมีบทเรียนจากการพึ่งพาบริษัทขนาดใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่เมื่อบริษัทเอกชนขนาดใหญ่มีปัญาหา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีปัญหาตามไปด้วย
โดยในส่วนของประเทศไทย จึงต้องส่งเสริมให้เอกชนร่วมสร้างผู้ประกอบการ Startup เพื่อสร้างเครือข่ายให้เติบโตมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย เมื่อเข้มแข็งจะสร้างความเติบให้ระบบเศรษฐกิจ