โครงการโซลาร์สหกรณ์ที่ประกาศผู้จับฉลากไปเมื่อเดือเมษา 67 โครงการ รวม 281 MW คงเหลือรอดมา COD ไม่ถึง 30%
เนื่องจากผู้ที่ชนะการจับฉลากไปน่าจะไม่สามารถสร้างให้เสร็จตามเวลาเส้นตายสิ้นปีนี้ที่ กกพ.กําหนดไว้
สาเหตุหลักๆก็คงจะเป็นเรื่องที่ดิน ที่ทางผู้สนับสนุนโครงการกับทางสหกรณ์หรือเจ้าของที่ดินไม่สามารถตกลงกันได้
บางโครงการผู้สนับสนุนมีปัญหาไม่ยอมทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับสหกรณ์ บางโครงการสหกรณ์ก็มีปัญหาขอเรียกผลประโยชน์เพิ่มเติมจากทางผู้สนับสนุน
ถ้าผู้สนับสนุนไม่ทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับสหกรณ์แล้วสหกรณ์จะทําอย่างไร ต้องไปฟ้องศาลเหรอ กว่าจะชนะต้องใช้เวลากี่ปี
ในทางกลับกันถ้าสหกรณ์ไม่ทําตามสัญญา ผู้สนับสนุนโครงการจะทําอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ ต้องไปฟ้องศาลเป็นคดีความรึเปล่า
สหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ต้องรับผิดชอบแทนความผิดพลาดของผู้บริหารสหกรณ์ที่เป็นผู้ไปทําสัญญากับผู้สนับสนุนไว้รึเปล่า
และนี่ยังไม่รวมปัญหาในรายละเอียดและข้อกฎหมายต่างๆที่ขาดความชัดเจนโดยสิ้นเชิง หน่วยงานเกี่ยวข้องมีหลายหน่วยงาน แต่ตอบคําถามไม่เหมือนกันเลย
ยกตัวอย่างที่ว่าตามระเบียบกกพ.ที่ดินต้องเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองของสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์ กรมสงเสริมสหกรณ์บอกว่าการเช่าก็ถือเป็นสิทธิ์ครอบครอง แต่ทาง กกพ. และทาง กฟภ.กลับบอกว่าสิทธิการเช่าไม่ใช่สิทธิครอบครอง
กรณีนี้ก่อให้เกิดความสับสนอย่างมาก และผลกระทบก็สูงมาก เพราะว่ากรณีนี้อาจทําให้เจ้าของโครงการที่เข้าใจผิด ทําผิดระเบียบ
ผลลัพท์ก็คือโครงการไม่ผ่านคุณสมบัติตามที่ระเบียบ กกพ.กําหนด และทาง กฟภ.ก็จะไม่สามารถออกหรือลงนามในสัญญาขายไฟกับเจ้าของโครงการได้
สรุปคือพังหมดทั้งโครงการ สหกรณ์ก็ไม่ได้อะไร ผู้สนับสนุนโครงการก็ไม่ได้อะไร โครงการก็ไม่เกิดในชุมชน และสุดท้ายอาจจะเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันอุตลุต
จากหลักการที่ตั้งไว้แต่แรกว่าจะเป็นโครงการช่วยสหกรณ์อาจจะกลายเป็นโครงการสร้างปัญหาให้สหกรณ์แทน
ทั้ง กกพ. กฟภ และ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ควรจะเป็นพี่เลี้ยงให้ตลอดรอดฝั่งนะครับ ทิ้งให้สหกรณ์ต้องมาจัดการเรื่องกฎหมายเอง จากดีอาจจะกลายเป็นแย่ไปนะครับ
ใครลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ก็ระมัดระวังกันหน่อย เวลานี้คำว่าหุ้นโซลาร์อาจจะไม่ได้ขลังเหมือนเดิม
รัฐบูรพา