“ธปท.-สมาคมแบงก์” ร่วมหารือปรับปรุงโครงสร้างค่าธรรมเนียมทั้งระบบใหม่ ยอมรับที่ผ่านมามีการบิดเบือน หรือบิดเบี้ยวในการคิดค่าธรรมเนียม ไม่เคยคิดตามการใช้จริง แบงก์พาณิชย์เก็บค่าธรรมเนียมสูงชดเชยต้นทุนที่สูงในอดีต
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ให้สิทธิธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งพิจารณาค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตรจากบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรชิปการ์ด ซึ่งหลังจากวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้มีการปรับลดค่าธรรมเนียม และค่าแรกเข้าลง เนื่องจากมีการแข่งขันระหว่างธนาคารกันสูง โดยประชาชนสามารถเปรียบเทียบอัตราค่าธรรมเนียมจากเว็บไซต์ของ ธปท.ได้ที่ www.bot.or.th
นายวิรไท ยอมรับว่า ขณะนี้ ธปท.ได้หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อปรับปรุงโครงสร้างค่าธรรมเนียมทั้งระบบให้มีความเหมาะสม เพราะที่ผ่านมา มีการบิดเบือน หรือบิดเบี้ยวในการคิดค่าธรรมเนียม ไม่เคยคิดตามการใช้จริง เพราะในอดีตธนาคารพาณิชย์ฟรีค่าธรรมเนียม แม้จะมีต้นทุนในการบริหารเงินสด และเช็คค่อนข้างมาก แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีต้นทุนต่ำลง แต่ธนาคารพาณิชย์ยังเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงเพื่อไปชดเชยต้นทุนในอดีต กลายเป็นว่าธุรกรรมผ่านอิเล็กทรอนิกส์แพงขึ้น ซึ่งทางสมาคมธนาคารไทยกำลังคำนวณต้นทุนที่ถูกต้อง และกำลังปรับโครงสร้างกันอยู่
ส่วนเรื่องที่มีประชาชนร้องเรียนการออกบัตรเดบิตแทนบัตรเอทีเอ็มนั้น ธปท.ยืนยันว่า ธนาคารพาณิชย์ได้ทยอยลดการออกบัตรเอทีเอ็มมาหลายปีแล้ว เพื่อให้สอดคล้องต่อนโยบาย National E payment ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้บัตรเดบิตแทนการใช้เงินสด เพื่อลดต้นทุนการบริหารเงินสด ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์จะต้องดำเนินนโยบายให้สอดคล้องต่อนโยบายดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าการเปลี่ยนบัตรเป็นชิปการ์ดเป็นการยกระดับคุณภาพด้านมาตรฐานความปลอดภัย และลดต้นทุนในการบริหารเงินสด ขณะที่ค่าธรรมเนียมก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ซึ่งยอมรับว่าระยะแรกประชาชนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ขอให้มีการทดลองใช้ก่อน โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ส่วนระบบเอทีเอ็มในต่างประเทศบางแห่งที่ไม่รองรับระบบชิปการ์ดหลายประเทศอยู่ระหว่างการเปลี่ยนระบบที่จะเข้าสู่ระบบชิปการ์ด ซึ่งอาจเร็ว หรือช้ากว่าไทยได้