BJC เพิ่มทุน 2.4 พันล้านหุ้น เตรียมขาย PP-RO พร้อมการออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1.3 แสนล้าน เพื่อปรับโครงสร้างเงินทุนหลังเข้าซื้อ BIGC ในสัดส่วน 97.94% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด ซึ่งได้มีการกู้ยืมเงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 2.04 แสนล้าน ซึ่งไม่รวม ดบ. และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเข้าทำรายการ
บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะเพิ่มทุน 2.4 พันล้านหุ้น เสนอขายให้แก่นักลงทุนในวงจำกัด และผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 35 บาท หวังระดมทุนขั้นต่ำจากการเพิ่มทุนราว 8.4 หมื่นล้านบาท พร้อมกับจะออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างเงินลงทุน และชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินที่บริษัทใช้ในการเข้าซื้อกิจการของกลุ่ม บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ (BIGC)
BJC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) เห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นที่ยังไม่จำหน่ายออก หลังจากนั้น ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4.05 พันล้านบาท จากเดิมที่ 1.65 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 2.4 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ PP จำนวน 800 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในคราวแรก หรือหุ้นละ 35 บาท ซึ่งจะทำให้มูลค่าการระดมทุนจาก PP ขั้นต่ำอยู่ที่ราว 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่หุ้นเพิ่มทุนใหม่อีก จำนวน 1.6 พันล้านหุ้น และหากมีหุ้นส่วนที่เหลือจากการเสนอขายให้ PP ก็จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 35 บาท กำหนดจองซื้อวันที่ 13-21 ก.ค.59 ซึ่งในส่วนนี้จะระดมทุนได้ราว 5.6 หมื่นล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนเพื่อปรับโครงสร้างเงินลงทุน และชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินที่บริษัทใช้ในการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท BIGC ในสัดส่วน 97.94% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด ซึ่งได้มีการกู้ยืมเงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 2.04 แสนล้านบาท ซึ่งไม่รวมดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเข้าทำรายการ
การเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้สามารถนำเงินไปชำระหนี้เงินกู้ได้ภายในกำหนดระยะเวลาที่ตกลงไว้แก่ผู้ให้กู้ และช่วยลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ รวมถึงช่วยในการปรับโครงสร้างทุน และหนี้สินของบริษัทให้มีความเหมาะสม
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการยังอนุมัติการออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาท หรือสกุลเงินอื่นในจำนวนที่เทียบเท่า และอนุมัติให้ขอรับสินเชื่อ โดยการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ วงเงินรวมของหุ้นกู้ และวงเงินสินเชื่อ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินไปชำระคืนหนี้เงินกู้ซึ่งมีอยู่ในปัจจุบัน หรือใช้ในการขยายธุรกิจ หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท