xs
xsm
sm
md
lg

จับตาเม็ดเงินระยะสั้นทะลักเข้าตลาดหุ้น โบรกฯ คาดไตรมาส 3 เข้าสู่ภาวะขาขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


FETCO เผยเศรษฐกิจโลกเริ่มชัด ตลาดทุนมีเสถียรภาพ นักลงทุนเชื่อมั่นเร่งหาหุ้นเข้าพอร์ต ชี้เงินทุนระยะสั้นไหลเข้าหาผลตอบแทนที่ดี บล.เมย์แบงก์ เชื่อไตรมาส 3 หุ้นไทยเข้าสู่ภาวะขาขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในอีก 3 เดือนข้างหน้าพุ่งสูงขึ้น

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจโลกแม้จะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่มีความชัดเจนมากขึ้น และนักลงทุนคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจได้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ยังไม่ฟื้นตัว จึงทำให้เม็ดเงินลงทุนกำลังจะกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทยด้วย

นายไพบูลย์ คาดว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปเม็ดเงินลงทุนจะเข้าตลาดหุ้นไทย แต่จะไหลเข้าระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนรอความชัดเจนของเศรษฐกิจไทยว่าจะฟื้นตัวเมื่อไรก็พร้อมจะลงทุนระยะยาวทันที โดยคาดว่าภายใน 4-5 เดือน นี้เงินลงทุนระยะยาวจะกลับมา

“หลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา ทำให้สร้างความชัดเจนในตลาดทุนโลก และมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่น และกระตือรือร้นในการหาหุ้นเข้าลงทุนมากขึ้น”

พร้อมกันนี้ ยังมองว่าเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าในช่วงนี้ มองว่าในระยะสั้น คือ การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นมากกว่า ส่วนในระยะยาว หรือเน้นที่พื้นฐาน ยังไม่มีการเพิ่มสัดส่วน แต่อยู่ในระดับที่ดีขึ้น โดยต้องรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจ

ขณะที่ปัญหาเรื่องการเมืองไม่มีส่วนสำคัญในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติแค่รอดูรัฐบาลใหม่ว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า ทิศทางหุ้นไทยในไตรมาส 2 คาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 1,380-1,430 จุด ซึ่งยังคงแกว่งตัวอยู่ เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น และธนาคารกลางต่างๆ ในโลกยังไม่รีบออกมาตรการกระตุ้น

โดยที่ช่วงนี้มีแรงขายออกมาบ้าง หลังจากช่วงต้นปีมีแรงซื้อจากต่างชาติค่อนข้างมากซึ่งเป็นภาวะปกติ แต่คาดว่าหลังจากนี้หุ้นไทยในไตรมาส 3 น่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้

ด้าน นายคเณศ วังส์ไพจิตร ผู้อำนวยการ FETCO กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ก.ค.59) อยู่ที่ 102.74 เพิ่มขึ้น 6.86% จากเดือนก่อนที่ระดับ 96.14 ถือเป็นระดับทรงตัว ทั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นทุกกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มสูงสุดกว่า 26.98%
กำลังโหลดความคิดเห็น