กสิกรไทย ออกบัตรเดบิตชิปการ์ด 3 แบบใหม่ เน้นปลอดภัยสูง ลดการใช้เงินสด ส่งเสริม e-Payment พร้อมอัปเกรดตู้เอทีเอ็มเกือบ 12,000 เครื่องทั่วประเทศให้พร้อมรองรับ คาดปีนี้มียอดเปลี่ยนเป็นชิปการ์ด 2 ล้านบัตร จากฐานบัตรกว่า 10 ล้านบัตร
นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกบัตรเดบิตแบบชิปการ์ดใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงในการทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็ม การซื้อของผ่านร้านค้าทั่วไป และร้านค้าออนไลน์ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยพัฒนาระบบชำระเงินของไทยให้สอดคล้องต่อมาตรฐานสากล และวางพื้นฐานสู่การส่งเสริมการชำระเงินในรูปแบบ e-Payment เพื่อลดการใช้เงินสดตามนโยบายของรัฐบาล และพร้อมกันนี้ ธนาคารได้ทยอยปรับปรุงเอทีเอ็มทั่วประเทศประมาณ 12,000 เครื่อง ให้รองรับการใช้งานของบัตรเดบิตในรูปแบบชิปการ์ดจากทุกธนาคาร
ทั้งนี้ บัตรเดบิตกสิกรไทยแบบชิปการ์ดมี 3 รูปแบบ คือ บัตรเดบิต K-Debit Card เป็นบัตรที่สามารถทำธุรกรรมได้ที่เครื่องเอทีเอ็ม ใช้ซื้อสินค้าในร้านค้า และชอปออนไลน์ได้ทั่วโลก บัตรเดบิต K-My Play บัตรสำหรับชีวิตสุดล้ำ ให้สนุกกับความบันเทิงออนไลน์ บัตรเดบิต K-Max Plus ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุเต็มแม็กซ์กับค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000 บาทต่ออุบัติเหตุ 1 ครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง เงินชดเชยกรณีรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุดวันละ 300 บาท (30 วันต่ออุบัติเหตุ 1 ครั้ง) และคุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุสูงสุด 200,000 บาท และทุกบัตรยังได้รับสิทธิประโยชน์จากกิจกรรมส่งเสริมการขายจากบัตรเดบิตกสิกรไทยต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สำหรับบัตรเดบิตกสิกรไทยแบบชิปการ์ดทั้ง 3 แบบ มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล โดยข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในชิปที่ป้องกันการถูกคัดลอกข้อมูล หรือสกิมมิ่ง พร้อมเพิ่มรหัสพิน (PIN) จาก 4 หลัก เป็น 6 หลัก และใช้งานได้สะดวกทุกช่องทาง ทั้งธุรกรรมถอนโอนจ่ายผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ทุกเครื่องที่รองรับบัตรชิปการ์ดตามมาตรฐานวีซ่า (VISA) ทั่วโลก ซื้อสินค้าผ่านเครื่องรับบัตร (EDC) ชอปออนไลน์โดยใช้ข้อมูลบัตร และยืนยันด้วยรหัส OTP (One Time Password) ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจเปลี่ยนบัตรเดบิตจากแบบแถบแม่เหล็กเป็นชิปการ์ด สามารถติดต่อที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันนี้ โดยจะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า และเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมรายปีตามประเภทของบัตร
ปัจจุบัน มีลูกค้าผู้ถือบัตรเอทีเอ็ม และเดบิตของธนาคารกสิกรไทยกว่า 10 ล้านบัตร คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 17% จากผู้ถือบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิตในไทยทั้งหมด 60 ล้านบัตร มีมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตกสิกรไทยประมาณ 45,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ถือเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตอยู่ที่ 108,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา บัตรเดบิตกสิกรไทยมุ่งใช้กลยุทธ์รูปแบบ “ยูนิเวอร์แซล เดบิต การ์ด” (Universal Debit Card) คือ ใช้บัตรเดบิตเพียงบัตรเดียวได้ในทุกที่ และทุกเรื่อง ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้ชิปการ์ดที่มีความปลอดภัยสูงน่าจะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากยิ่งขึ้น
“ธนาคารคาดว่าจะมีลูกค้าเปลี่ยนบัตรเป็นแบบชิปการ์ดในปีนี้ประมาณ 2 ล้านบัตร อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ถือบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กก็ยังคงใช้บัตรเดิมได้ตามปกติจนกว่าบัตรจะหมดอายุ”
นอกจากนี้ ในปีนี้ธนาคารกสิกรไทยได้เพิ่มสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับบัตรเดบิตกสิกรไทย K-My Play และ K-Max Plus ให้สอดคล้องต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้น ได้แก่ ดูหนังในเครือ SF ราคา 100 บาท ทุกเรื่อง ทุกรอบ ชอปออนไลน์ผ่าน ZALORA, iTrueMART, TARAD.com และ ensogo รับส่วนลด 12% จองที่พักผ่าน Expedia รับส่วนลด 10% และ agoda รับส่วนลด 7% แพกเกจความงามราคาพิเศษกับ ROMRAWIN, Slimming Plus, Skin Doctors และ Slim Up ราคาเริ่มต้น 999 บาท นอกจากนั้น สะสมคะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรทุก 1,000 คะแนนแลกเงินคืน 100 บาท