บลจ.บางกอกแคปปิตอล ชี้ทิศทางหุ้นไทยปรับขึ้นยาก หลัง 4 เดือนแรกดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นแรงกว่า 100 จุด พร้อมคาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50% จนถึงสิ้นปี ด้านภาวะตลาดหุ้นเช้าปิดลบ 6.78 จุด SET อ่อนแรงไร้ประเด็นใหม่หนุน ขณะที่ sell on fact หลังประกาศงบฯ กดดันตลาดฯ
นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร หัวหน้าสายงานจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด (BCAP) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไม่มากแล้วในช่วงปลายปี หลังจากที่ในช่วง 4 เดือนแรก ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามากกว่า 100 จุด ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองเป็นหลัก หากการเมืองไม่มีปัญหาก็น่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย
ส่วนกรณีที่นักลงทุนมองว่า ในเดือนพฤษภาคมจะมีแรงขายออกมามากนั้น ในระยะสั้นคงมองทิศทางตลาดได้ค่อนข้างยาก จึงแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนในระยะยาว เพราะในระยะสั้นปัจจัยต่างประเทศยังกดดันต่อตลาดหุ้นไทยอยู่ โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ซึ่งส่งผลให้ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนต่อไป และมักจะมีแรงขายเมื่อข่าวที่กดดันตลาดมีความชัดเจน หรือ sell on fact ดังนั้น แนะนำนักลงทุนในกระจายการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) คาดการณ์ว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปีไว้จนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงเกินกว่าร้อยละ 85 ของจีดีพี แม้ปัจจุบัน ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำแต่ยังไม่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจมากนัก
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 1,387.36 จุด ลดลง 6.78 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.49% มูลค่าการซื้อขาย 20,505.51 ล้านบาท
นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 พ.ค.) เป็นลักษณะปรับฐาน เนื่องจากปกติในช่วงเดือน พ.ค.ของทุกปีการซื้อขายในตลาดฯ มักจะซบเซา
“ถ้าดูจากพฤติกรรมในอดีตตลาดหุ้น 10 ปีย้อนหลังเดือน พ.ค.ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ขณะที่ Downside ก็ไม่เยอะ”
ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาหนุน แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นมามาก ทำให้หุ้นกลุ่ม Commodity ช่วยประคองตลาดไว้ แต่วันนี้ราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวลงจึงฉุดหุ้นพลังงานลงอีกรอบ
ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายแห่งที่ประกาศออกมา ไม่ว่าจะดีกว่าคาด ตามคาด หรือต่ำกว่าคาด ก็มักจะมีการ sell on fact หรือ take profit ออกมา
สำหรับช่วงบ่ายวันนี้ ให้แนวรับ 1,390 และ 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด แต่คิดว่าเดือนนี้คงไม่ทะลุ 1,400 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 11 พ.ค. คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยตามเดิม เพราะขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงน่าจะเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามจำเป็น
ส่วนคำแนะนำลงทุนเลือกหุ้น Defensive หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เช่น BDMS LPH รวมถึงหุ้น COM7 ที่ประเด็นบวกเข้ามาจากคาดการณ์ว่าจะมีการออกไอโฟนรุ่นใหม่