xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์กรุงเทพ กำไรลด 11% ระบุเศรษฐกิจฟื้นช้ากดรายได้ลด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แบงก์กรุงเทพ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2559 จำนวน 8,317 ล้านบาท เทียบกับ 7,681 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2558 และลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 417 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.7% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 121 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.1% และเอ็นพีแอลอยู่ในอัตรา 2.9%

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) แจ้งผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2559 ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 8,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 636 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2558 แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 9,407 ล้านบาทแล้ว ลดลงร้อยละ 11 โดยในไตรมาสแรกปีนี้ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จำนวน 16,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 417 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.04 เป็นร้อยละ 2.37 เนื่องจากต้นทุนเงินฝากลดลง

ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมี จำนวน 10,672 ล้านบาท ลดลง 121 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.1 ส่วนใหญ่ลดลงที่กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิมีจำนวน 6,103 ล้านบาท ลดลง 134 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียม และบริการ ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 12,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 710 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8

นอกจากนี้ จากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้า ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 1,874,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,021 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 จากสิ้นปี 2558 โดยเติบโตจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายกลาง และรายปลีก และสินเชื่อกิจการธนาคารต่างประเทศ และ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ จำนวน 61,841 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ร้อยละ 2.9 อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้คำปรึกษา และความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องเสมอมา

พร้อมกันนั้น ธนาคารยังคงตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ธนาคารมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูง ในไตรมาส 1 ปี 2559 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 3,644 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 5.8

ด้านสภาพคล่อง ธนาคารยังคงให้ความสำคัญเรื่องการบริหารสภาพคล่องควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารมีเงินรับฝาก จำนวน 2,149,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58,368 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8 จากสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 87.2 เทียบกับ ร้อยละ 89.4 ณ สิ้นปีก่อน

และเงินกองทุน ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ในระดับที่ดีสามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งหากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2559 หักด้วยเงินปันผลที่จะจ่ายในเดือนพฤษภาคม 2559 รวมเข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคาร และบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.5 ร้อยละ 16.5 และร้อยละ 16.5 ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น