xs
xsm
sm
md
lg

ที่พักอาศัย-รง.SME พุ่งรับ AEC บลูสโคปฯ เร่งผุดสาขา เพิ่มดีลเลอร์รับดีมานด์ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ ปินตาธรรม
ตลาดรวมอุตฯ ก่อสร้างปี 58 ยังชะลอตัวต่อ ขณะที่อุตฯ เหล็กเคลือบสวนทางโตตามการลงทุนภาครัฐ แม้ภาพรวมตลาดเหล็กโตต่ำกว่า 5% สอดคล้องต่อทิศทางตลาดก่อสร้าง จับตาตลาดที่พักอาศัย โรงงาน SME ดาวรุ่งหลังได้อานิสงส์เปิด AEC ด้านบลูสโคปฯ สบช่องเร่งขยายสาขาบลูสโคปฯ เจาะกลุ่มค้าปลีก ที่พักอาศัย โรงงาน SME พร้มทุ่ม 1,000 ล้านบาท พัฒนาโรงงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่แบรนด์ ซูเปอร์ ไดม่า

นายสมเกียรติ ปินตาธรรม ประธานบริษัท เอ็นเอสบลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมและวัสดุก่อสร้างยังคงชะลอตัวต่อจากปีก่อนหน้า แต่ในส่วนของอุตสาหกรรมเหล็กในระยะสั้น โดยเฉพาะเหล็กเคลือบยังคงมีอัตราการขยายตัวที่ดี เนื่องจากภาครัฐมีการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ระบบสาธารณูปโภค และระบบคมนาคม ประกอบกับทิศทางการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะมาถึงในปลายปีนี้ทำให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในกลุ่ม SME ขยายตัวมากขึ้น ทำให้ในระยะสั้นนี้อุตสาหกรรมเหล็กขยายตัวได้ดี

อย่างไรก็ตาม แม้ในระยะสั้นนี้อุตสาหกรรมเหล็กจะขยายตัวดี แต่ในระยะยาวนั้นยังคงต้องจับจาดูการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐต่อไปว่ามีทิศทางอย่างไร ซึ่งหากมีการลงทุนที่ต่อเนื่องก็จะทำให้อุตสาหกรรมเหล็กยังขยายตัวได้ดี ส่วนมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทีมเศรฐกิจชุดใหม่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ เชื่อว่าจะช่วยกสระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มประชาชนระดับล่างได้มากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ และในระยะถัดไปหากมีการใช้จ่ายมากขึ้นน่าจะส่งผลต่ออุตสาหกรรม และกลุ่มที่อยู่อาศัยได้ดี

สำหรับตลาดเหล็กเคลือบสี ในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวต่อปีเฉลี่ย 5% แบ่งเป็นกลุ่มตลาดหลักๆ ได้ 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มก่อสร้างโรงอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน 2.กลุ่มงานก่อสร้างที่พักอาศัย และ SME ทั้งนี้ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาอตราการขยายตัวต่ำกว่า 5% อยู่เล็กน้อย โดยทั้ง 2 ตลาดนี้กลุ่มที่พักอาศัย และ SME มีอัตราการขยายตัวประมาณ 10% ต่อปี และมีแชร์ตลาดมากกว่ากลุ่มแรก

จากการขยายตัวที่ดีของกลุ่มที่อยู่อาศัย และ SME ในปีนี้ ทำให้บริษัทมีแผนจะขยายตลาดเหล็กเคลือบสีสู่กลุ่มโรงงาน SME และที่พักอาศัยมากขึ้น โดยจะเน้นการขยายสาขาบลูสโคปออโธไรซ์ ดีเลอร์ หรือศูนย์ตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมมตลาด และกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าใน ปี61 จะมีสาขาบลูสโคปทั่วประเทศ 70-100 สาขา หรือมีการเพิ่มสาขาใหม่ปีละ 20-30 สาขาต่อปี โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาอยู่ 22 สาขา

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเปิดตัวบลูสโคป แซค์คลู นวัตกรรมหลังคาที่ช่วยให้บ้าน และอาคารเย็น รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเทคโนโลยีเหล็กเคลือบ ซึ่งล่าสุด บริษัทได้ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี NSSMC เพื่อพัฒนาและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ซูเปอร์ ไดม่า และผลิตภัณฑ์เหล็กซีอาร์พี แอนตี้แบคทีเรีย เอสดี ที่มีคุณสมบัติทนทานการกัดกร่อนสูง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจผลิตเครื่องไฟฟ้า


กำลังโหลดความคิดเห็น