xs
xsm
sm
md
lg

“บีซีพีจี” คาดเสนอขายไอพีโอ 600 ล้านหุ้นในช่วงครึ่งหลังปี 59

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บีซีพีจี คาดเสนอขายไอพีโอ 600 ล้านหุ้น ในช่วงครึ่งหลังปี 59 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของ ก.ล.ต. โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี บริษัทย่อยของ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ยื่นแบบคำขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของ ก.ล.ต. และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวประมาณไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2559

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ บมจ.บางจากปิโตรเลียม ถือหุ้น 1.40 พันล้านหุ้น คิดเป็น 99.9% ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือไม่ต่ำกว่า 70.0% ของจำนวนหุ้นสามัญ ภายหลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงแสวงหาการลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน โดยในปัจจุบัน บริษัทฯ และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศไทย 8 โครงการ เพื่อจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จำนวน 118 เมกะวัตต์

นอกจากการลงทุนภายในประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสขยายธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ โดยการพัฒนา หรือการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม ขณะนี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศญี่ปุ่น ผ่านบริษัท BCPG Japan Corporation โดยมีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 13 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 27 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 158 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจในญี่ปุ่นเป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการโครงการโซลาร์ฟาร์มจากกลุ่มซันเอดิสัน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นับเป็นการขยายกิจการของบริษัทฯ ทั้งด้านกำลังการผลิตไฟฟ้า และด้านภูมิศาสตร์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีฐานยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย สามารถใช้สำหรับการขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ตามเป้าหมายการขยายธุรกิจต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น