xs
xsm
sm
md
lg

LHBANK ปลื้มพันธมิตร หวังจบดีลสิงหาฯ นี้ ต่อยอด 3 ธุรกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


LHBANK แจงความคืบหน้าร่วมทุน CIBC Bank พันธมิตรใหม่ อยู่ระหว่างทำดิว ดิลิเจนซ์ คาดใช้เวลา 1 เดือน และเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดเดือนสิงหาคมนี้ เผยหลังใส่เม็ดเงิน 1.6 หมื่นล้าน ดันเงินกองทุนชั้นที่ 1 เป็น 21% จาก 10% พร้อมเดินหน้า 3 ธุรกิจใหม่ “บริหารเงินส่วนบุคคล-เทรดไฟแนนซ์-ดิจิตอลแบงกิ้ง” หลังเสร็จดีล คาด 1-2 ปีเริ่มเห็นผล

นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทแอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHBANK) กล่าวถึงกรณีที่ LHBANK ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงพันธมิตรกับ CIBC Bank Co.,Ltd. (CTBC Bank) จากไต้หวัน ในการเข้าถือหุ้นของธนาคารในสัดส่วน 35.6% โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนขายให้ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท รวมมูลค่า 16,599 ล้านบาท ว่า ขั้นตอนหลังจากการเซ็น MOU นั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำตรวจสอบทรัพย์สิน หรือ Due Diligence ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

หลังจากนั้น ก็จะดำเนินการขออนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการทำ white wash เพื่อยกเว้นการทำคำเสนอซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) รวมถึงขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการเข้าถือหุ้นธนาคารเกินกว่า 10% และสุดท้าย คือ ขออนุมัติจากที่ผู้ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคาร ซึ่งคาดว่าขั้นตอนต่างๆ จะเสร็จสิ้นประมาณเดือนสิงหาคมของปีนี้

“ดีลดังกล่าวไม่ได้ทำให้จำนวนหุ้นในตลาดมากขึ้น เพราะหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ก็ขายให้ผู้ถือหุ้นใหม่ทั้งล็อต แล้วก็มีข้อตกลงกันอยู่แล้วว่าจะไม่มีการขายหุ้นออกมา ซึ่งในเบื้องต้นที่ตกลงกันก็ 3 ปี ก็คงจะมีแต่ส่วนของกำไรที่โดนไดรูตลงไป ก็เป็นในระยะแรกๆ เท่านั้น เมื่อผลจากการลงทุนของเงินที่ใส่เข้ามาเห็นผลก็จะทำให้กำไรกลับเพิ่มขึ้น คงใช้เวลาสัก 1-2 ปีข้างหน้า”

ทั้งนี้ การเข้ามาของ CTBC Bank จะช่วยเสริมในธุรกิจที่ธนาคารยังขาดอยู่หลักๆ 3 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจการบริหารการเงินส่วนบุคคล (Wealth Management) เทรด ไฟแนนซ์ (Trade Finance) และดิจิตอล แบงกิ้ง รวมถึงการขยายธุรกิจออกไปสู่ต่างประเทศที่พันธมิตรมีสาขาครอบคลุมอยู่ ส่วนโครงสร้างผู้บริหารก็จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย โดย CTBC Bank จะเข้ามานั่งกรรมการในเบื้องต้น 2 ตำแหน่ง และคณะกรรมการอิสระ 1 ตำแหน่ง จากคณะกรรมการรวม 9 ตำแหน่ง

นายรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราคงยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายของธุรกิจต่างๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา คงรอให้เสร็จสิ้นขั้นตอนใส่เงินเข้ามาก่อน ซึ่งอันดับแรกเลยก็คือ ทำให้เงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 21% สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้เป็น 100% แล้วคาดว่าเงินกองทุนชั้นที่ 1 ก็จะกลับมาที่ระดับ 12%ในปี 5 ปีข้างหน้า

นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อไว้ในระดับ 10-15% ถือเป็นระดับปกติที่ธนาคารจะตั้งเป้าหมายไว้ 3 เท่าของจีดีพีเติบโต โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ธนาคารมีสินทรัพย์เพิ่ม 5,000-6,000 ล้านบาท จากสิ้นปีที่อยู่ในระดับ 198,500 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 225,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอี และรายย่อยยังเติบโตอย่างระมัดระวัง

“ในเรื่องของเงินทุนที่ใส่เข้ามานั้น ระยะแรกส่วนใหญ่ก็คงเป็นด้านใช้จ่ายลงทุนก่อน ทั้งเรื่องระบบ บุคลากร ซึ่งจะนำพารายได้ต่างๆ คืนมาในระยะข้างหน้า ขณะที่ทาง CTBC เองก็จะได้ขยายเครือข่ายของธนาคารไว้รองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าไต้หวันที่มาทำธุรกิจอยู่ในไทยกว่า 3,000 ราย รวมถึงประเทศใกล้เคียงด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น