ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลงต่อ

ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 0.49% ปิดที่ระดับ 1,222 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยที่เข้ามากระทบ ได้แก่ นางเจเนต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และไม่ได้ระบุถึงกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหม่ และส่งสัญญาณชัดเจนว่า คงไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบก่อนเดือนมิถุนายน ช่วยผ่อนคลายแรงกดดันหลังช่วงก่อนหน้าเจ้าหน้าระดับสูงหลายรายได้ออกมาให้ความเห็นว่า FED อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ขณะที่ซิตี้ กรุ๊ป ได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้เหลืออีกเพียง 1 ครั้ง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้ปรับลงมาอีกครั้งหลังรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่านักวิเคราะห์คาดในเดือน มี.ค. ประกอบกับรายงานดัชนีภาคการผลิตของ ISM ในเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด อีกทั้งประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ เผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้นจะทำให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้นรวมถึง ประธานเฟด สาขาชิคาโกออกมาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.

แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค : แนวโน้มปรับลงต่อ ราคาทองปรับลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันอีกครั้ง ขณะที่การเรียงตัวแท่งเทียนยังเป็นไปตามแรงกดดันของกรอบขาลงเดิมที่เรียงตัวซ้อนอยู่ในรูปแบบลง ROUDING TOP ขณะที่ค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับลงเป็นสัญญาณลบ ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับลงต่อตามรูปแบบ โดยมีแนวรับที่ 1,190-1,185 แนวต้านที่ 1,240-1,245