ชีวาทัย เผยความเชื่อมั่นเข้าเทรดหุ้นในตลาดหุ้น mai พรุ่งนี้ (5 เม.ย.) คาดนักลงทุนให้ความสนใจ เหตุหุ้นจำนวนน้อย ราคาต่อหุ้นไม่แพง มั่นใจเปิดเทรดราคาเหนือจองแน่นอน
นายชาติชาย พานิชชีวะ ประธานกรรมการ บมจ.ชีวาทัย จำกัด หรือ CHEWA กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรกในวันที่ 5 เมษายนนี้ โดยใช้ชื่อย่อ CHEWA โดยการเข้าระดมทุนขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO จำนวน 262 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในราคาจองซื้อ 1.60 บาท/หุ้น ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยมั่นใจว่าหุ้น CHEWA จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแน่นอน
“เรามีความเชื่อมั่นพื้นฐาน และศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจจากสิงคโปร์ ที่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่การดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีแผนงานจะขยายพอร์ตสินค้าไปสู่โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ซึ่งจะเกื้อหนุนให้มีการรับรู้รายได้ที่สม่ำเสมอขึ้น”
ด้าน นายบุญ ชุนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชีวาทัย กล่าวว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทฯ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย และโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าที่พัฒนาแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างพัฒนา 8 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 6,870 ล้านบาท เช่น โครงการชีวาทัย ราชปรารภ จำนวน 325 ยูนิต มียอดขาย 99% ฮอลล์มาร์ค งามวงศ์วาน จำนวน 792 ยูนิต มียอดขาย 53% ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT เตาปูน จำนวน 279 ยูนิต มียอดขาย 82% ฯลฯ และมีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 1 โครงการ คือ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ 100 เมตร จำนวน 172 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 120,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,040 ล้านบาท มียอดขาย 20% นอกจากนี้ ยังมีโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า จำนวน 10 ยูนิต บนที่ดิน 26 ไร่เศษ ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง มีพื้นที่ให้เช่ารวม 17,120 ตารางเมตร มูลค่า 300 ล้านบาท มีผู้เช่าแล้ว 40%
นอกจากนี้ CHEWA ยังเตรียมขยายไลน์สินค้าไปสู่โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยจะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มีมูลค่ารวม 2,322 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ “ชีวารมย์ เรสซิเดนซ์” เป็นบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด จำนวน 81 ยูนิต บนที่ดินกว่า 15 ไร่ ในซอยรังสิต-นครนายก 7 ช่วงรังสิต คลอง 1 ราคาขายเฉลี่ย 5.15 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 488 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 2/59 โครงการคอนโดมิเนียม “ชีวาทัย เพชรเกษม 27” ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ เบื้องต้น เป็นอาคารสูงไม่เกิน 31 ชั้น จำนวน 560 ยูนิต บนที่ดิน 4 ไร่เศษ ราคาขายเฉลี่ย 75,000 หมื่นบาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,659 ล้านบาท โดยอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีบางหว้า 480 เมตร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ นอกจากนี้ เตรียมพัฒนาโครงการโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า (โครงการ 2) จำนวน 4 ยูนิต บนที่ดินกว่า 13 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง มีพื้นที่ให้เช่ารวม 9,100 ตารางเมตร มูลค่า 175 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/59
ขณะที่ นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า CHEWA มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากมีนโยบายกระจายพอร์ตการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปยังโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ พร้อมทั้งมีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกทำเล และการพัฒนาสินค้าที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเพื่อที่อยู่อาศัยในรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นทำเลในแหล่งชุมชนที่มีศักยภาพ และคมนาคมสะดวก ทั้งถนนสายหลัก หรือใกล้แนวขนส่งมวลชนระบบราง พร้อมมองโอกาสลงทุนในหัวเมืองต่างจังหวัด หรือแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสำคัญ โดยเฉพาะในเขตอีสเทิร์น ซีบอร์ด และพื้นที่ที่มีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์จากเขตส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ
ขณะเดียวกัน ยังมี TEE Development Pte Ltd ในเครือ TEE Land Ltd ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ที่มีความเชี่ยวชาญการก่อสร้าง และการทำตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นพันธมิตรธุรกิจช่วยเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อช่วยให้ CHEWA ก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับอาเซียน
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,429.94 ล้านบาท เติบโตขึ้น 217.8% จากปี 2557 ที่มีรายได้รวม 449.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 83.22 ล้านบาท พุ่งขึ้น 92.59% จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 43.21 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายและโอนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมียอดขายคอนโดมิเนียมที่รอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ณ 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 321 ยูนิต มูลค่ารวม 949 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2559-2560