ธปท.ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ตามแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระยะ 2 เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยมีโอกาสกระจายการลงทุน และตราสารที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนเกิดความคล่องตัวยิ่งขึ้น มีผล 18 เม.ย.นี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศ และหนังสือเวียน เพื่อผ่อนคลายหลักเกณฑ์ตามแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ ระยะที่ 2 เพิ่มเติม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 18 เมษายน 2559 ดังนี้
ทั้งนี้ ธปท.อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ออก และเสนอขายตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนได้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยมีโอกาสกระจายการลงทุน และทำความคุ้นเคยต่อตราสารทางการเงินที่มีการเคลื่อนไหวไปกับอัตราแลกเปลี่ยน ดังนี้
1.ให้ธนาคารพาณิชย์ออก Structured product สกุลเงินบาทที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เช่น จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อบาท หรือให้สิทธิลูกค้าซื้อเงินตราต่างประเทศได้ไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเทียบเท่าต่อราย โดยนับรวมเงินตราต่างประเทศที่ลูกค้าฝากกับธนาคารพาณิชย์แบบไม่มีภาระผูกพันด้วย (จากเดิมอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถออกขายตราสารดังกล่าวให้เฉพาะแก่ลูกค้าที่มีความเสี่ยง (exposure) จากอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น เป็นการออกขายให้ลูกค้าเป็นการทั่วไป)
2.ให้ธนาคารพาณิชย์ออก Structured product สกุลเงินตราต่างประเทศที่อ้างอิงกับตัวแปรต่างประเทศ เช่น ให้สิทธิลูกค้าในการขายเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท หรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นได้ (จากเดิมที่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถออกขายตราสารดังกล่าวเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น)
3.ให้ธนาคารพาณิชย์ ธุรกรรมอนุพันธ์ (Derivatives) อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกี่ยวกับเงินบาท เช่น อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อเยน กับลูกค้าได้เป็นการทั่วไป (จากเดิมอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถทำได้เฉพาะกับลูกค้าที่มีความเสี่ยง (exposure) จากอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น)
นอกจากนั้น ธปท.ยังผ่อนคลายคุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจของตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ (Money transfer agent) เพื่อขยายคุณสมบัติผู้ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโอนเงินรายย่อย และผ่อนคลายหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจเพิ่มเติม รวมทั้งสนับสนุนให้การโอนเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น และเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการโอนเงินไปต่างประเทศผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การโอนเงินแรงงานกลับประเทศ เป็นต้น
ในประเด็นนี้ ธปท.ได้เพิ่มคุณสมบัติผู้ขออนุญาตเป็น Money Transfer Agent ได้แก่ 1) ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) 2) ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคม 3) บุคคลรับอนุญาต (Money changer) และ 4) บริษัทที่มี Money changer เป็นผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด
ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตตามคุณสมบัติข้างต้นต้องมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งต้องมีเครือข่ายที่ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศที่เชื่อถือได้
ขณะที่ ธปท.จะให้ผู้ประกอบการสามารถให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ เช่น เว็บไซต์, แอปพลิเคลชันผ่านโทรศัพท์มือถือ ขยายวงเงินการโอนเงินออกของลูกค้าต่อคนต่อวัน เป็นไม่เกิน 200,000 บาทต่อคนต่อวัน (จากเดิมไม่เกิน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อวัน)
ส่วนการประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นั้น เพื่อให้ บล.สามารถให้บริการแก่ลูกค้าในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ได้คล่องตัวมากขึ้น ธปท.จึงเห็นควรอนุญาตให้ บล.ที่ประสงค์จะให้บริการเป็นตัวแทนลูกค้าไทย หรือลูกค้าต่างชาติในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ สามารถยื่นขออนุญาตเป็นรายกรณี เพื่อขอหักกลบ (netting) รายการซื้อ หรือขายเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ของลูกค้าก่อนที่ บล.จะซื้อ หรือขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ในไทยตามยอดสุทธิจากการหักกลบ โดยสามารถส่งหนังสือยื่นขออนุญาตต่อ ธปท.ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป