กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ พร้อมปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของ ศก.ไทยในปีนี้เหลือเติบโต 3.1% จากเดิมคาดเติบโต 3.5% เนื่องจากการส่งออกหดตัวลงมากกว่าคาด
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. และ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี และปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลงเหลือโตร้อยละ 3.1 จากเดิมมองว่าจีดีพีโตร้อยละ 3.5 และ คาดการณ์จีดีพีปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 3.3
ทั้งนี้ กนง.เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณอ่อนแรงลง หลังจากผลชั่วคราวของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงก่อนปีใหม่และการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตหมดลง ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้ายังหดตัวสูง และ มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ส่งผลให้การส่งออกของไทยติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดลบร้อยละ 2 จากเดิมที่คาดว่าไม่ขยายตัว แต่จะดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2560 ที่มองว่าการส่งออกจะขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.1 นอกจากนี้การที่ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินประเทศอุตสาหกรรมหลักแตกต่างกัน ส่งผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ และ อัตราแลกเปลี่ยน ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในบางช่วง ซึ่งอาจไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเท่าที่ควร
ส่วนการที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 3 ด้วยการแจกเงินให้ข้าราชการ และ ผู้มีรายได้น้อยใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์นั้น ธปท.ขอเวลาในการประเมินว่าจะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการบริโภค และการใช้จ่ายในประเทศ เพื่อพยุงเศรษฐกิจได้บ้าง พร้อมยืนยันดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ผ่อนปรน
แม้ว่า กนง.จะปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือโตร้อยละ 3.1 แต่หากเทียบกับปี 2558 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 ถือว่าเศรษฐกิจไทยยังมีอัตราการขยายตัว และ ยังไม่มีสัญญาณเกิดภาวะเงินฝืด หรือ ภาวะชะงักงัน และ ความเสี่ยงที่จีดีพีจะปรับตัวลงมากกว่านี้มีน้อยลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ ปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 2.2 โดยสมมุติฐานราคาน้ำมันในปีนี้อยู่ที่ 37.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 47 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2560