พนักงาน บมจ.อีสท์วอเตอร์ เผยบอร์ดอนุมัติงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดินทำสระเก็บน้ำดิบสำหรับป้อนเข้าโครงการในนิคมอุตสาหกรรม พบสัญญาไม่โปร่งใส มีพิรุธอื้อ แอบเอื้อประโยชน์ต่างตอบแทนกับบริษัทเอกชน
แหล่งข่าวภายในเปิดเผยข้อมูลผ่านทางสำนักข่าวอิศรา ถึงโครงการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำดิบคลองทับมา ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ของ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ EASTW ซึ่งใช้งบลงทุนมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท เนื่องจากมีการดำเนินงานล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ อีกทั้งพื้นที่ของการก่อสร้างโครงการบางส่วนยังรุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่สาธารณะอีกด้วย
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า หากย้อนไปในช่วงประมาณปี 255 บริษัทฯ ได้ทำสัญญาว่าจ้างกับกิจการร่วมค้าบริษัทหนึ่งในการเข้าดำเนินงานก่อสร้างอ่างเก็บน้ำดิบคลองทับมา ในวงเงินลงทุนที่ 1,500 ล้านบาท โดยในรายละเอียดข้อตกลงนั้นระบุว่า กลุ่มกิจการร่วมค้านี้จะรับหน้าที่ในการเข้าซื้อที่ และบริหารจัดการในการทำสระเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จแล้วจะได้ทำการส่งมอบให้แก่อีสท์วอเตอร์ โดยในสัญญาได้มีการระบุถึงรูปแบบการจ่ายเงิน ซึ่งแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด คือ จ่ายในขณะที่ดำเนินงาน 30% ส่วนที่เหลืออีก 70% จะจ่ายเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ และทำการส่งมอบ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า สิ่งที่ถือว่าเป็นนัยซ่อนเร้นไม่โปร่งใส คือ การที่ระยะเวลาในการก่อสร้างที่ผ่านมามีความล่าช้าผิดปกติ และพบว่า ทางบอร์ดบริหารบางกลุ่มได้มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาในลักษณะที่ผิดไปจากข้อตกลงเดิมที่วางไว้ โดยได้เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายเอกชนผู้รับว่าจ้าง ทั้งการเปลี่ยนเงื่อนไขเวลาในการส่งมอบงาน รวมไปถึงการแก้ใขในสัญญาผู้ว่าจ้างใหม่ เป็นการจ่ายเงินระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 70% และส่วนที่เหลือ 30% จะจ่ายหลังการส่งมอบงาน ซึ่งแหล่งข่าวมองว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดปกติ และอาจกระทบต่อบริษัท
“ความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า บริษัทเอกชน 1 ใน 2 รายที่รับงานเข้ามาขุดสระนั้น เข้ามาระบงานในนามกิจการร่วมค้า และทำหน้าที่ขุดสระเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เอกชนรายดังกล่าวได้เข้าไปรุกล้ำขุดสระเข้าไปในพื้นที่สาธารณะด้วย อีกทั้งยังมีความพยายามของผู้บริหารบริษัทฯ บางกลุ่มเข้าไปล็อบบี้หน่วยงานราชการในจังหวัดให้แก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ดี จากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นนี้ และปัญหาที่เกี่ยวเนื่องอื่นซึ่งเกี่ยวโยงกับ EASTW ทำให้กระทบถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อกระทรวงมหาดไทย โดยล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้มีคำสั่งให้มีการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างเร่งด่วน ขณะที่ในส่วนของผู้บริหารของอีสท์วอเตอร์ ยังไม่มีการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.55 น. หุ้นของ EASTW ปรับตัวลดลง 1.52% ลงมาอยู่ที่ 13 บาท/หุ้น