“พฤกษา” เผยยอมหันกำไร 5% ขนสินค้าไม่เกิน 1.5 ล้านบาทเข้าร่วมแชร์โครงการบ้านประชารัฐ หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ระบุสต๊อกทาวน์เฮาส์ในมือกว่า 2,000 ยูนิต ตั้งเป้ายอดขายทาวน์เฮาส์แตะ 3.3 หมื่นล้านภายใน 5 ปี ด้านบริษัทแอล.พี.เอ็น.ฯ คัดสรรคอนโดฯ 3,133 ยูนิต เข้าร่วมโครงการประชานิยม เชื่อทำให้บรรยากาศซื้อขายอสังหาฯ กระเตื้องขึ้นได้
นายปิยะ ประยงค์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำโครงการทาวน์เฮาส์พร้อมอยู่ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งปัจจุบันมี 5 โครงการ รวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ยูนิต มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท และพร้อมที่จะขยายเฟสได้เพิ่มหากมีความต้องการเข้ามามาก ซึ่งปัจจุบันบันในกลุ่มนี้มีสัดส่วนเป็น 10% ของพอร์ตทาวน์เฮาส์ทั้งหมด หรือคิดเป็น 5% ของรายได้รวมบริษัท แต่เชื่อว่าโครงการบ้านประชารัฐจะช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ได้เพิ่มขึ้น แม้ว่าการนำโครงการเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐบริษัทจะต้องลดกำไรลงถึง 5% จากกำไรปกติ 15% ก็ตาม
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2559 นี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ 44 โครงการ มูลค่ารวม 33,000 ล้านบาท รวมทั้ง 4-5 แบรนด์คือ บ้านพฤกษา พฤกษาวิลล์ เดอะคอนเน็ค วิลเลจและพาทิโอ โดยเป็นทำเลกรุงเทพฯ 40 โครงการ ชลบุรี 2 โครงการ ภูเก็ต 1 โครงการ และเชียงใหม่ 1 โครงการ ในจำนวนเป็นแบรนด์บ้านพฤกษาที่มีระดับราคา 1.5-2.5 ล้านบาท มีทั้งหมด 16 โครงการ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท
โดยตั้งเป้ายอดขายในส่วนของโครงการทาวน์เฮาส์ จำนวน 24,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 24,000 ล้านบาทเช่นกัน เติบโตจากปีที่ผ่านมา 10% นอกจากนี้ ยังได้วางแผนในอนาคตอีก 5 ปี ตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 10% และจะขยายเซกเมนต์จับตลาดระดับราคา 5-7 ล้านบาทมากขึ้น จากเดิมเป็นผู้นำในกลุ่มราคา 1-5 ล้านบาท มีมาร์เกตแชร์ 34% เป็นอันดับ 1 ของตลาดทาวน์เฮาส์ รวมถึงการเตรียมสินค้า HVA (High Value Added) เพื่อแข่งขันในตลาด
นายปิยะ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดบ้านทาวน์เฮาส์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าตลาดจะเติบโตประมาณ 10% ในขณะที่กลุ่มทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทซึ่งอยู่ในแบรนด์บ้านพฤกษาคาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 30%
“แม้ว่ากลุ่มลูกค้าทาวน์เฮาส์ที่ผ่านมาจะมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 30% แต่ภายหลังบริษัทได้ตรวจสอบคุณสมบัติลูกค้าก่อนยื่นขอสินเชื่อทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อลดลงมาอยู่ที่ 7-8% เท่านั้น นอกจากนี้ การที่บริษัทใช่เวลาก่อสร้างบ้านเพียง 45 วัน หรือบ้านสร้างก่อนขายส่งมอบภายใน 2 สัปดาห์ ทำให้ลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่ไม่เป็นหนี้เสีย”
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการฉลองการพัฒนาโครงการ “บ้านพฤกษา” ครบ 100 โครงการ คือ โครงการ “บ้านพฤกษา ไพร์ม สถานีรถไฟฟ้าบางพลู-ราชพฤกษ์” เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าบ้านพฤกษา 100 โครงการ จำนวนรวมกว่า 74,000 ยูนิต ที่มีสมาชิกถึงกว่า 290,000 ราย บริษัทฯ จึงใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบมิวสิก มาร์เกตติ้ง เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ โดยใช้บทเพลงเป็นสื่อกลางเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บ้านพฤกษา โดยจับมือกับ “สิงโต นำโชค” นักร้อง และนักแต่งเพลงชื่อดัง ผู้มีสปิริต และทุ่มเทเพื่อความสำเร็จ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน และขับร้องเพลงพิเศษที่แต่งขึ้นจากความรู้สึกประทับใจของลูกค้าบ้านพฤกษา ผ่านความสุข ความภูมิใจ ด้วยบทเพลง “ต้นไม้แห่งรัก” ที่สื่อให้เห็นถึงความรัก และความผูกพันที่มีต่อบ้านพฤกษาทั้ง 100 โครงการ ติดตามฟังได้ที่ youtube.com/watch?v=5NP65BD31Ew”
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ของ บ้านพฤกษา ในปีนี้มีแผนจะเปิด จำนวน 16 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางบน ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดมากขึ้น ในระดับราคา 1.5-2.5 ล้านบาท เพื่อรักษาการเติบโต และรักษาความเป็นผู้นำในตลาดทาวน์เฮาส์ที่พฤกษาครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดมาโดยตลอด โดยในปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งการตลาดถึง 30% มูลค่า 21,288 ล้านบาท
LPN นำห้องชุดกว่า 3 พันยูนิตร่วมบ้านประชารัฐ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า ทางบริษัทได้นำโครงการคอนโดมิเนียมเข้าร่วมโครงการ “บ้านประชารัฐ” โดยได้คัดเลือกคอนโดฯ มาจำนวน 3,756 ยูนิต จาก 13 โครงการ แบ่งเป็นราคาไม่เกิน 700,000 บาท จำนวน 3,133 ยูนิต และเกิน 700,000 บาท จำนวน 623 ยูนิต โดยจะจัดขายราคาพิเศษ คิดเป็นมูลค่าส่วนลด 42 ล้านบาท
“นับเป็นเรื่องที่ดีรัฐบาลคลอดโครงการบ้านประชารัฐออกมา ถือว่าหลักเกณฑ์โครงการนี้เปิดกว้างมาก ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท กำหนดเพดานราคาตั้งแต่ 7 แสนบาท ถึง 1.5 ล้านบาท เชื่อว่าจะทำให้บรรยายกาศการซื้อขายอสังหาฯ น่าจะกระเตื้องขึ้นได้”