แสนสิริ เผยโฉมแฟล็กชิพ คอนโด “98 Wireless” บนถนนวิทยุ คอนโดแพงที่สุดในเมืองไทย 77ยูนิตมูลค่า8,500ล้านบาท วางสัดส่วนลูกค้าไทย60% ต่างชาติ 40% แย้มยอดขาจากลูกค้าเก่า20%แล้ว เผย “The one” ซูเปอร์เพนท์เฮาส์1,000 ตร.ม.ปิดการขายแล้วด้วยราคา600ล้านบาท เล็งโรดโชว์โครงการในฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร์ มั่นใจปิดการขายอย่างรวดเร็วเพราะมีจำนวนจำกัด
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ แสนสิริ ได้เข้าซื้อที่ดินติดถนนวิทยุจำนวน2ไร่43ตารางวา ในราคา1.5 ล้านบาทต่อตารางวา (ตร.ว.)ไว้เมื่อ6ปีที่ผ่านมาและได้วางแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ ล่าสุดได้ฤกษ์เปิดตัวโครงการดังกล่าวภายใต้ชื่อ “98 Wireless” แฟล็กชิพคอนโดมิเนียม มูลค่าขายรวม 8,500ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่มีราคาขายสูงที่สุดในตลาดอสังหาฯไทยในขณะนี้ โดยราคาขายเฉลี่ยของโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 5.5แสนบาทต่อ ตร.ม. ทำลายสถิติราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมสูงที่สุดในย่านCBD ซึ่งปัจจุบันมีราคาขายเฉลี่ยสูงสุดที่อยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทต่อ ตร.ม.
ทั้งนี้ โครงการ“98 Wireless” เป็นโครงการคอนโดสูง25ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 77 ยูนิต มูลค่าขายรวม 8,500ล้านบาท ภายในโครงการมีที่จอดรถให้แก่ลูกค้ามากกว่า240% และมีลีฟส่วนตัวให้ลูกค้าในทุกยูนิต และมีพื้นที่ส่วนกลางไว้บริการลูกค้า3ชั้นซึ่งมีความสูงเท่ากับตึก 8 ชั้นเลย โดยในโครง“98 Wireless” จะมีห้องชุดให้ลูกค้าเลือกตั้งแต่ 2-4 ห้องนอน ห้องเพนท์เฮาส์ และซูเปอร์เพนท์เฮาส์ ราคาเริ่มต้น 60 - 600 ล้านบาท โดยห้องซูเปอร์เพนท์เฮาส์ภายใต้ชื่อ “The One” ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) มีลูกค้าจองซื้อแล้วโดยจ่ายเป็นเงินสดในราคา 600ล้านบาท ปัจจุบัน แสนสิริ ได้เปิดขายห้องชุดในโครงการให้แก่ลูกค้าเก่าและมียอดขายแล้ว20% ของห้องชุดทั้งหมดในโครงการ
“ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งบนถนนวิทยุ แสนสิริ จึงเลือกที่จะนำเสนอโครงการที่สามารถสะท้อนเรื่องความภูมิใจภายใต้โครงการ “98 Wireless” ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดเพียงแห่งเดียวที่ลูกค้าสามารถถือครองกรรมสิทธิ์100% ขณะที่ในปัจจุบันที่ดินบนถนนวิทยุนั้นไม่มีแปลงไหนที่ขายขาดหรือ ให้ลูกค้าถือครองกรรมสิทธิ์เหลือแล้ว เพราะที่ดินโดยมากเป็นของสถาบัน ขณะเดียวกันราคาที่ดินบนถนนวิทยุมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ33% โดยแสนสิริได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาในราคา1.5ล้านบาทต่อตร.ว. เมื่อปี2553 แต่ปัจจุบันราคาประเมินที่ดินบนถนนวิทยุอยู่ที่ 2.8ล้านบาทต่อ ตร.ว.”
ทั้งนี้ แสนสิริ วางสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้2ส่วนคือกลุ่มลูกค้าเศรษฐีคนไทย60% และ40% เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดย20% แรกของห้องชุดที่ขายได้เป็นลูกค้าคนไทยทั้งหมด สำหรับโครงการนี้จะเปิดขายหลังงานก่อสร้างแล้วเสร็จ100% ในเดือนต.ค.ของปีนี้ ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำโครงการไปโรดโชว์ที่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย แต่ยังไม่มีแผนจะนำไปโรด์โชว์ในยุโรปและอเมริกา เพราะเชื่อว่าจะสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
“ทำเลที่จะพัฒนามองว่าเป็นสามารถพัฒนาเป็นโครงการแฟล็กชิพคอนโดระดับเดียวกันกับ“98 Wireless” ได้นั้นในปัจจุบันน่าจะเป็นทำเลย่านราชดำริ แต่โครงการที่จะพัฒนาเป็นคอนโดแฟล็กชิพได้นั้น ไม่ได้ขึ้นกับทำเลเพียงอย่างเดียวแต่ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ทีมงาน วัสดุก่อสร้าง นักออกแบบ ฯลฯ” นายอภิชาตกล่าว