“คลัง” มั่นใจแม้หนี้ครัวเรือนจะพุ่งสูงถึง 81.1% จะไม่ส่งผลกระทบภาพรวม ศก. เนื่องจากเอ็นพีแอลยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมแจงผลบริหารหนี้สาธารณะที่จะส่งผลให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้รายงานสถานการณ์หนี้ครัวเรือน และลดภาระหนี้ครัวเรือนและหนี้นอกระบบให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2558 อยู่ทีร้อยละ 81.1 ถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นหนี้ครัวเรือนมาจากนโยบายรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก และการใช้บัตรเครดิต แบ่งเป็นหนี้ซื้อที่อยู่อาศัย ร้อยละ 27.1 เป็นเอ็นพีแอลร้อยละ 3.4 หนี้ซื้อรถยนต์ร้อยละ 15.1 เป็นเอ็นพีแอลร้อยละ 1.4 ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบฐานะการเงินของสถาบันการเงิน ส่วนบัตรเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 2.5 เอ็นพีแอลร้อยละ 3.4 และหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคร้อยละ 3 เอ็นพีแอลร้อยละ 5.2 ทั้งหนี้บัตรเครดิต และอุปโภคบริโภคถือเป็นสัดส่วนที่มีความเสี่ยงต่อระบบสถาบันการเงินค่อนข้างสูง ซึ่งมั่นใจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการกำกับดูแลอยู่แล้ว
ส่วนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่ 1 มีวงเงินปรับเพิ่ม 13,252.04 ล้านบาท จากเดิม 17,28170.21 ล้านบาท เป็น 17,41422.25 ล้านบาท โดยแผนดังกล่าวจะทำให้วงเงินก่อหนี้ใหม่ลดลง 25,780.03 ล้านบาท ซึ่งมาจากการปรับลด 3 ส่วน คือ ปรับลดวงเงินกู้สนับสนุนเกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 30,000 ล้านบาท จัดสรรวงเงินเพิ่มให้การประกาส่วนภูมิภาค (กปภ.) 1,753.80 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ 2558 (เพิ่มเติม) บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด และองค์กรเภสัชกรรม ปรับเพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้น 2,638 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง
นอกจากนี้ วงเงินบริหารหนี้เดิมจะเพิ่มขึ้น 39032.07 ล้านบาท เกิดจากการปรับวงเงินบริหารหนี้สุทธิของกระทรวงการคลัง 65,000 ล้านบาท และปรับเพิ่มโครงสร้างหนี้รัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวม 92,000 ล้านบาท เพิ่มวงเงินบริหาความเสี่ยงบริษัท วิทยุการบิน จำกัด 2,075 ล้านบาท เพิ่มวงเงินบริหารความเสี่ยง บกท. 9,926 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง คาดว่าการปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะครั้งนี้จะทำให้โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งที่อยู่ในแผน ประกอบด้วย รถไฟฟ้า 4 สาย รถไฟทางคู่ 3 สาย การจัดซื้อหัวรถจักร รถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า และรถโดยสาร รวมถึงโครงการลงทุนสาขาไฟฟ้า ประปา และที่อยู่อาศัยสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะเร่งด่วนของ กปภ.จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเติบโต โดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มั่นใจว่าถ้าดำเนินการตามแผนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีปีนี้จะไม่เกินร้อยละ 45
นายกฤษฎา กล่าวว่า หลักการร่าง พ.ร.บ.การปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีอากร พ.ศ. ... ถือเป็นกฎหมายกลาง ทำให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามความตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีกับรัฐบาลประเทศต่างๆ คาดว่าเมื่อมีผลบังคับใช้จะส่งผลให้สถาบันการเงินของไทยสามารถประกอบธุรกิจในต่างประเทศโดยไม่ถูกหักภาษีในอัตราที่สูง หรือมีข้อติดขัดในการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์ในการได้รับข้อมูลแหล่งเงินได้ของบุคคลไทยในประเทศคู่สัญญาเพื่อนำมาใช้พัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น