เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ เผยกลยุทธ์การทำตลาดปี 59 เน้นปูพรมดึงนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้ายอดบัญชีผู้ใช้ใหม่แตะ 30,000 บัญชี ชูจุดขายคิดค่าคอมมิชชันถูกที่สุดกว่า 50% พร้อมเปิดขาย TFEX 29 มีนาคมนี้ ชี้ตลาดหุ้นไทยปีนี้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก แนะนักลงทุนระมัดระวัง
นายธนัท วงษ์ชูแก้ว ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ หรือ SBITO กล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เกตแชร์สิ้นปี 2559 โดยบริษัทฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.5% (มาร์เกตแชร์ปกติ) จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0.1% ขณะที่มาร์เกตแชร์ประเภทของอินเทอร์เน็ต เทรดดิ้งนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3% เนื่องจากบริษัทฯ จะเน้นให้ลูกค้าทำการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเองทั้งหมด โดยบริษัทฯ จะเน้นขยายฐานลูกค้าเพิ่มลูกค้าให้ได้ไม่น้อยกว่า 30,000 บัญชีภายในสิ้นปี 2559 นี้ ซึ่งจะทำการตลาดในเชิงรุกเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ทำการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง และมีวอลุ่มการซื้อขายในปริมาณมาก
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เน้นกลยุทธ์ด้านค่าคอมมิชชันที่ถูกกว่าผู้บริการรายอื่นถึง 50% หรือ 0.075% จากราคาพื้นฐานปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 1.5% (หรือล้านละ 750 บาท) ในบัญชีประเภท Cash Balance และ 0.10% (หรือล้านละ 1,000 บาท) ในบัญชี Cash Account ถือว่าต่ำที่สุดในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ อีกทั้งยังมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้นักลงทุนได้ซื้อขายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
“บริษัทฯ ยังคงนโยบายการเก็บค่าคอมมิชชันถูกกว่าตามที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่ได้เริ่มเปิดดำเนินการธุรกิจ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าถึงการลงทุนในตลาดหุ้นได้ง่ายขึ้น โดยจะคิดค่าธรรมเนียมถูกกว่าผู้ให้บริการรายอื่นที่อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งบริษัทฯ จะยืนอัตราค่าคอมมิชชันที่ลดต่ำกว่า 50% และถ้าหากใครที่ลดลงต่ำมาในระดับนี้ก็พร้อมสู่ราคา เพราะได้คำนวณต้นทุนราคามาแล้ว”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมยื่นขอไลเซนส์อันเดอร์ไรต์หุ้น IPO โดยจะเป็นไปในลักษณะของผู้ร่วมการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญที่เข้าทำการซื้อขายครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ร่วมกันกับทางบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียร์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS อีกทั้งยังได้เตรียมที่จะเปิดให้บริการมาร์จิ้นโลน โดยขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุป และเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้
ขณะที่ในส่วนของผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งสำรองขาดทุนเป็นระยะเวลา 5 ปี (2558-2562) ตั้งแต่ที่เริ่มเปิดให้บริการฯ ซื้อขายหลักทรัพย์ เนื่องจากบริษัทฯ ได้ใช้เงินลงทุนไปในการวางระบบการซื้อขายหุ้นออนไลน์ทำให้ยังไม่มีกำไรในปีนี้ แต่บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเริ่มรับรู้กำไรได้ในปี 2560 จากยอดบัญชีลูกค้าตามที่ประเมินไว้ที่ 30,000 บัญชี ภายในปี 2559 นี้ และมีการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 80-100 ล้านบาท (ยอดบัญชีเคลื่อนไหว 1,539 บัญชีในปัจจุบัน)
“บริษัทฯ มองว่า ออนไลน์เทรดเดอร์ในประเทศไทยปัจจุบันนี้มีการเติบโตมากกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมาจำนวนหลายเท่าตัว หรืออาจเรียกได้ว่ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการเติบโตมากขึ้นถึง 90% เลยทีเดียว”
อย่างไรก็ดี ในส่วนของมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ บริษัทฯ มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะแกว่งตัวในทิศทางลบ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศเป็นหลัก เช่น เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง การผันผวนของค่าเงิน และราคาพลังงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของนักลงทุนทั่วไป อีกทั้งภาวะหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป รวมไปถึงข่าวการลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ ยังสร้างความวิตกกังวลต่อนักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างมาก ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศก็ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลในหลายๆ เรื่อง เช่น โครงสร้างพื้นฐาน รัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้ง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ขอให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากภาพรวมการลงทุนยังไม่ค่อยดีนัก
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดให้บริการสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ TFEX ในวันที่ 29 มีนาคมนี้
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับ คุณมนสิช จันทรปุ่ม หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม คุณมด แมงเม่าคลับ ผู้ก่อตั้ง mangmaoclub.com และ SiamQuant.com โดยร่วมมือกันให้ความรู้แก่นักลงทุนภายใต้ชื่อโครงการ SiamQuant Academy ในรูปแบบการจัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้ ทรัพยากร บทวิจัยต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่นักลงทุนที่สนใจการลงทุนอย่างเป็นระบบ (System Trading หรือ Quantitative Trading) โดยที่ทางคุณมด จะมาเป็นวิทยากรในการสัมมนา และเทรนนิ่งต่างๆ ร่วมกับ SBITO
“จุดมุ่งหมายหลักของโปรเจกต์ SiamQuant Academy คือ การสร้างสรรค์ ผลักดัน และสนับสนุนการลงทุนอย่างเป็นแบบระบบให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในประเทศไทย โดยการสร้างแรงบันดาลใจ ขับเคลื่อน และสนับสนุนด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และทรัพยากรคุณภาพสูง โดยผ่านทาง website อย่าง www.siamquant.com ซึ่งจะเป็นประตูบานแรกสำหรับนักลงทุนทุกคนที่สนใจในการลงทุน โดยอาศัยหลักฐานข้อเท็จจริง และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เพื่อให้นักลงทุนได้วิเคราะห์ และสร้างประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด รวมถึงสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว” คุณมนสิช กล่าวทิ้งท้าย