xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” ชี้หุ้นไทยพุ่งรับข่าวงบ บจ. คาดกรอบดัชนี 1,270-1,315 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS
โกลเบล็ก มองดัชนีหุ้นไทยได้แรงซื้อดักงบ และปันผลปี 2558 บวกกับธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ให้กรอบดัชนี 1,270-1,315 จุด แนะลงทุนหุ้นที่ประกาศงบไตรมาส 4/58 เด่น ชู FSMART, BEAUTY, EA, SPALI, ORI ด้านราคาทองมีแนวโน้มลงต่อหลังขึ้นแรง ให้แนวรับ 1,160-1,155 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,250-1,255 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบหน้าในเดือน มี.ค. เนื่องจากมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และการดีดตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีความคืบหน้าจากความร่วมมือของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการช่วยกันรักษาเสถียรภาพราคา

ปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภาคเอกชนชะลอการลงทุน ซึ่งเห็นได้จากดัชนีความความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2559 อยู่ที่ระดับ 86.3 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน จากระดับ 87.5 ในเดือนธันวาคม 2558 รวมทั้งการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศหลัก เช่น สหรัฐฯ กลุ่มประเทศยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน มีความแตกต่างกัน

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มีนาคมนี้ รวมถึงแรงซื้อดักงบ และปันผลปี 2558 ที่ทยอยประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงผิดหวังผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ตรึงการผลิตเป็นตัวถ่วงดัชนี

ดังนั้น คาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,270-1,315 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มที่ปัจจัยบวก และซื้อสะสมหุ้นที่งบการเงินเติบโตดี ได้แก่ FSMART, TVT, BEAUTY, EA, SYNEX, SPALI, ORI และ UBIS กลุ่มหุ้นที่มีปันผลสูง แนะนำ INTUCH, ADVANC และ KTB หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากช่วง High Season ของการท่องเที่ยว และต้นทุนน้ำมันปรับตัวลงแนะนำ AOT, BA และ AAV

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มย่อตัวลงหลังปรับขึ้นมาแรงในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า จากแรงขายทำกำไรหลังราคาทองปรับขึ้นมามาก บวกราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เผยว่า กลุ่มโอเปกพร้อมให้ความร่วมมือในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันร่วมกับกลุ่มผู้ส่งออกรายอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น

ขณะที่รัสเซีย และซาอุดีอาระเบียหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดน้ำมัน เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นจากการที่นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารหลังดอยช์ แบงก์จะเข้าซื้อคืนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารจำนวนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำ และกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า พร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมในวันที่ 10 มีนาคม และเรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ ในยูโรโซนดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ

อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิค ราคาทองปรับลงมาทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ไม่ลงมาต่ำแสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวรับ บวกกับการสร้างแท่งเทียน POSITIVE HARAMI หลังลงมาจบรูปแบบแท่งเทียนขาลง THREE BLACK CANDLESTICKS เป็นสัญญาณฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ค่าสัญญาณ RSI ที่อยู่ในช่วงปรับลดภาวะ OVER BOUGHT เป็นแรงกดดัน ทำให้ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นในลักษณะค่อยๆ แกว่งตัวขึ้นมากกว่าปรับขึ้นแรง โดยให้แนวรับ 1,160-1,155 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,250-1,255 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น