IOD จี้ผู้นำองค์กรขับเคลื่อน CG อย่ามุ่งเน้นทำกำไรเพียงอย่างเดียว ย้ำผู้บริการต้องเอาจริงเอาจังเพื่อให้เกิดขึ้นจริง ขณะที่ BANPU-SCC ขานรับเพื่อเป็นองค์กรต้นแบบที่ดี
นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) กล่าวในงาน CG Forum 1/2016 “จริยธรรม : จิตสำนึกหลักบรรษัทภิบาล” ในหัวข้อ “จริยธรรมในการดำเนินงานและการประพฤติตนของกรรมการและผู้บริหาร” โดยระบุว่า เรื่องของจริยธรรมเป็นสิ่งที่คณะผู้บริหารจะต้องตระหนักว่าเป็นเรื่องของความสำคัญ หรือเป็นเรื่องของการบริหารความเสี่ยงของชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือองค์กร รวมถึงในเป้าหมายของการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Performance บทบาทหน้าที่ของการเป็นผู้นำ การวางแผนธุรกิจ ควรมีการให้น้ำหนักในทุกๆ เรื่องอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เพียงแค่มุ่งประเด็นไปที่การทำกำไรเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ การกำกับดูแลกิจการ (CG) ของบริษัทจะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และต้องมีการขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะมาจากการสร้างวัฒนธรรม คุณธรรมขององค์กรที่ยังเป็นประเด็นที่หลายบริษัทขาด มีเพียงการเน้นการรีแบรนด์ แต่การขับเคลื่อนของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรยังไม่เห็นชัด อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนดังกล่าวเป็นสิ่งที่คณะกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงจะต้องชี้ชัดไปเลยว่า สิ่งไหนที่เป็นค่านิยมที่สำคัญขององค์กร เพื่อให้ถูกกลั่นกรองมาเป็นนโยบายที่ทำร่วมกัน สามารถปฏิบัติได้
ด้าน นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ อดีตนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และกรรมการ บมจ.บ้านปู (BANPU) กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินแนวทางตามหลักวัฒนธรรมองค์กรมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท โดยปัจจุบันมีหลักเกณฑ์ 4 ข้อ ซึ่ง 1 ใน 4 ข้อนี้มีเรื่องของความซื่อสัตย์ ยุติธรรม ในความถูกต้องของ Intensity ขณะที่ก็เริ่มมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องของจริยธรรม ที่มีทั้งเรื่องของค่านิยม และอุดมการณ์เพื่อให้เป็นมาตรฐานระดับสูงทางจริยธรรม คุณธรรม ในวิชาชีพ จากนั้นก็ได้เริ่มทำนโยบายบรรษัทภิบาลภายในบริษัทซึ่งสอดคล้องต่อนโยบายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้มีความทันสมัย เพื่อใช้คู่มือดังกล่าวในการโปรโมตในกลุ่มผู้บริหาร และพนักงานทั้งในประเทศ ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เกณฑ์การรับพนักงานเข้ามาทำงาน บริษัทจะมีการกลั่นกรองในเรื่องของวัฒนธรรมให้มีความใกล้เคียงองค์กร ถ้าหากไม่มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่บริษัทเชื่อมั่นก็จะไม่รับเข้ามาทำงาน ส่วนที่มีการรับเข้ามาก็จะมีการปฏิบัติร่วมกันในหลายรูปแบบ ทั้งการ Sharing การฝึกอบรม และการปฐมนิเทศ โดยเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ได้ยึดมั่นมายาวนาน และเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อองค์กรอย่างมาก ประกอบกับบริษัทฯ ก็มีการวัดมาตรฐานจากการสำรวจความมีจริยธรรม วัฒนธรรมองค์กร พนักงานอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการกระทำผิดของผู้บริหารระดับสูงเกี่ยวกับการนำข้อมูลของบริษัทไปใช้ในทางที่เป็นโทษ เป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากในการรักษาข้อมูล หากเกิดเหตุใช้ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญมากก็คงจะต้องให้ออกจากหน้าที่
“บ้านปู เรามีฝ่ายที่ดูแลในเรื่องของบริษัทธรรมภิบาล โดยมีช่องทางการร้องเรียนฝ่ายเลขานุการของคณะทำงาน ซึ่งจะมีความเป็นอิสระต่อฝ่ายบริหาร การเก็บรักษาข้อมูลเราจะให้ความสำคัญของแต่ละคนดูแลรักษาข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราแคร์มาก แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นการใช้ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญมากก็อาจจะต้องให้ออกจากหน้าที่” นายชนินท์ กล่าว
ด้าน นายเชาวลิต เอกบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงิน และการลงทุน บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า เครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG มีการเติบโตทางธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และมีพนักงานค่อนข้างมาก โดยสิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารระดับสูงจะต้องเข้าไปรับผิดชอบ คือ การสื่อสารต่อพนักงานถึงอุดมการณ์ของการทำธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะพนักงานของบริษัทที่ SCG ได้เข้าไปซื้อกิจการเพื่อเป็นหลักยึดถือในการทำงาน รวมถึงยังให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการลงมือปฏิบัติด้วย
พร้อมกันนี้ นอกจากจะมีการปลูกฝังในเรื่องของอุดมการณ์แล้ว ยังมีเรื่องของการส่งเสริมที่จะต้องมีข้อแนะนำ ซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ใช้งานได้จริง รวมไปถึงมีกระบวนการควบคุม ตรวจสอบผ่านผู้บริหารงาน และพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น พนักงานบัญชีที่จัดทำเอกสาร สุดท้ายจะเป็นกลไกการตรวจสอบภายใน โดยการตรวจสอบบริษัทมีทั้ง Original Audit และระบบเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีข้อมูลที่ส่อไปในทางที่ผิดแจ้งเข้ามา เพื่อให้มีการตรวจสอบ และการรับรู้อย่างทั่วถึงต่อไป
ขณะที่การฝึกอบรม ให้ความรู้ ปัจจุบันบริษัทได้ใช้แนวทาง 70:30 โดย 10% จะมาจากการอบรมใน Classroom หรืออบรมในงานสัมมนา และอีก 20% จะมาจากการทำงานกับหัวหน้างานอย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนมุมมอง ส่วนที่เหลือ 70% จะเป็นการปฏิบัติงานจริง
“เราพยายามใช้กระบวนการเหล่านี้เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาทำงานร่วมกับ SCG ก็จะได้รับประโยชน์ทั้งในส่วน 10:20:70 ขณะที่กรณีที่มีความผิดพลาด หากตรวจสอบพบภายหลังในธุรกิจที่เราเข้าไปซื้อทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราก็มีความชัดเจนบอกให้เลิก แม้เราจะมีความสูญเสียยอดขายในช่วงนั้นไป แต่ในอนาคตเราจะสามารถทำธุรกิจที่ถูกต้อง” นายเชาวลิต กล่าว
นายเชาวลิต กล่าวว่า ส่วนการกระทำผิดของพนักงาน ตลอดจนผู้บริหารระดับสูง บริษัทได้ระบุไว้ในคู่มือ โดยแนวทางการพิจารณาการกระทำผิดของพนักงานจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งก็จะพิจารณาไปตามกฎหมาย และการกระผิดตามจรรยาบรรณ ซึ่งเป็นการทำผิดทางวินัย ก็จะมีบทลงโทษตามระดับความผิด