BBL เตรียมเรียกไทยทีวีเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ โดยยืนยันที่จะเรียกเงินค่าใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลทุกงวด รวมทั้งค่าปรับ ย้ำยังไม่มีรายอื่น
นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารจะเรียกบริษัท ไทยทีวี จำกัด เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ หากที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันนี้ (10 ก.พ.) ยืนยันที่จะเรียกเงินค่าใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลทุกงวด รวมทั้งค่าปรับจากกรณีที่ไทยทีวีไม่จ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 และต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต ช่อง MVTV Family และช่องไทยทีวี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธนาคารยังอยู่ระหว่างรอข้อสรุปที่ชัดเจนของทาง กสทช.ทั้งเรื่องของการแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอล และกรณีบริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งเชื่อว่าหากคณะกรรมการ กสทช.ได้ข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งในการประชุมวันนี้ก็คงจะเรียกผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปแสดงความคิดเห็น และเสนอเข้าที่ประชุม กสทช.อีกครั้งเพื่อเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง
อีกทั้งขณะนี้ธนาคารยังไม่ได้จัดชั้นหนี้ของไทยทีวีเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เนื่องจากที่ผ่านมา ธนาคาเพียงให้หนังสือค้ำประกันไปเท่านั้น และ กสทช.ยังไม่มีการเรียกเข้าไปหารือ ส่วนลูกค้าสินเชื่อในธุรกิจทีวีดิจิตอลรายอื่นๆ ที่ธนาคารมีส่วนในการปล่อยกู้นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายใดมีปัญหาจนต้องคืนใบอนุญาตประกอบการกิจการทีวีดิจิตอลเหมือนกับรายของไทยทีวี
อนึ่ง คณะกรรมการประกอบกิจการกระจายเสียง (กสท.) สำนักงาน กสทช. แจ้งคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้บริษัท ไทยทีวี จำกัด ทราบโดยทันที และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือทั้งหมด พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมเพิ่ม ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับคำสั่ง มิฉะนั้น จะใช้สิทธิตามกฎหมายเรียกให้ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะผู้ค้ำประกันชำระเงินค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระแทนบริษัท ไทยทีวี จำกัด ต่อไป อีกทั้งให้ทางบริษัทชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการเพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรายปี
นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารจะเรียกบริษัท ไทยทีวี จำกัด เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ หากที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันนี้ (10 ก.พ.) ยืนยันที่จะเรียกเงินค่าใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลทุกงวด รวมทั้งค่าปรับจากกรณีที่ไทยทีวีไม่จ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 และต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต ช่อง MVTV Family และช่องไทยทีวี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธนาคารยังอยู่ระหว่างรอข้อสรุปที่ชัดเจนของทาง กสทช.ทั้งเรื่องของการแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอล และกรณีบริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งเชื่อว่าหากคณะกรรมการ กสทช.ได้ข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งในการประชุมวันนี้ก็คงจะเรียกผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปแสดงความคิดเห็น และเสนอเข้าที่ประชุม กสทช.อีกครั้งเพื่อเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง
อีกทั้งขณะนี้ธนาคารยังไม่ได้จัดชั้นหนี้ของไทยทีวีเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เนื่องจากที่ผ่านมา ธนาคาเพียงให้หนังสือค้ำประกันไปเท่านั้น และ กสทช.ยังไม่มีการเรียกเข้าไปหารือ ส่วนลูกค้าสินเชื่อในธุรกิจทีวีดิจิตอลรายอื่นๆ ที่ธนาคารมีส่วนในการปล่อยกู้นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายใดมีปัญหาจนต้องคืนใบอนุญาตประกอบการกิจการทีวีดิจิตอลเหมือนกับรายของไทยทีวี
อนึ่ง คณะกรรมการประกอบกิจการกระจายเสียง (กสท.) สำนักงาน กสทช. แจ้งคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้บริษัท ไทยทีวี จำกัด ทราบโดยทันที และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือทั้งหมด พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมเพิ่ม ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับคำสั่ง มิฉะนั้น จะใช้สิทธิตามกฎหมายเรียกให้ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะผู้ค้ำประกันชำระเงินค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระแทนบริษัท ไทยทีวี จำกัด ต่อไป อีกทั้งให้ทางบริษัทชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการเพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรายปี