xs
xsm
sm
md
lg

ผลิตภัณฑ์ตราเพชรมองตลาด CLMV+I สดใส ตั้งเป้าปี 59 เพิ่มส่งออกแตะ 20%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผลิตภัณฑ์ตราเพชร รุกขยายธุรกิจปีลิง มุ่งผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV+I รับเปิด AEC ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกโดยรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิม 16% พร้อมรุกเพิ่มยอดขายในประเทศ ชูกระเบื้องหลังคาคอนกรีต-ไม้สังเคราะห์เป็นสินค้าเรือธง พร้อมนำเสนอบริการเหมามุง และติดตั้งแบบครบวงจร บุกตลาดผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด และโครงการอสังหาริมทรัพย์ รับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว ด้านผู้บริหารการันตีกำไรปี 58 เพิ่มขึ้นแน่

นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ “ตราเพชร” เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนรุกขยายธุรกิจในปี 2559 เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตต่อเนื่อง โดยแนวทางจะมุ่งขยายตลาดส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV+I ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม รวมถึงจะรุกตลาดในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังมีความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อการพัฒนาประเทศ ประกอบกับการเปิด AEC อย่างเป็นทางการจะส่งผลดีต่อการเชื่อมโยงการค้าการลงทุน และการทำตลาดส่งออกในภูมิภาคอาเซียนได้ดีขึ้น โดย DRT วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจากตลาดส่งออกรวมจาก 16% เป็น 20% ของยอดขายรวมในปีนี้

ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบอย่างโดดเด่นในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศพม่า เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีปัจจัยเกื้อหนุนมาจากสถานการณ์การเมืองในพม่าที่มีเสถียรภาพมากขึ้นภายหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งใหญ่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว โดยเริ่มมีสัญญาณบวกในการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าในพม่าเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสของ DRT ที่จะผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 10% จากยอดส่งออกโดยรวม

ส่วนแนวทางทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทฯ จะผลักดันการขายสินค้าในกลุ่มกระเบื้องหลังคอนกรีต และไม้สังเคราะห์ผ่านช่องทางการจำหน่ายในห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ พร้อมทั้งนำเสนอบริการเหมามุง และการติดตั้งแบบครบวงจร เพื่อรุกช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ และลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ หลังผู้ประกอบการมีการลงทุนขยายสาขา และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการซื้อของผู้บริโภค หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้นด้วย

“การเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้จะมาจาก 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การขยายตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV การขยายตลาดในประเทศผ่านช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และลูกค้าโครงการอสังหาฯ เป็นหลัก ซึ่งในปีที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายรวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 40% จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ ยังสามารถขยายตลาดเพื่อผลักดันสัดส่วนยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้” นายสาธิต กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในส่วนของกำไรสุทธิจะเติบโตกว่าปี 2557 เนื่องจากได้เร่งผลักดันการขายสินค้าในทุกช่องทางจำหน่าย โดยนำเสนอสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มีความหลากหลายสามารถก่อสร้างบ้านได้เกือบครอบคลุมทั้งหลัง ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตในปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 75% จากกำลังผลิตรวม 982,000 ตันต่อปี พร้อมทั้งดำเนินกลยุทธ์ปรับ Product Mix โดยมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี ส่งผลดีต่ออัตรากำไรสุทธิในปี 2558 เติบโตขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น