xs
xsm
sm
md
lg

ปัจจัยลบในจีนกดดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าร่วงเกือบ 20 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าร่วงเกือบ 20 จุด ตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นจีน และราคาน้ำมันร่วงแรง โบรกเกอร์แนะจับตาสถานการณ์ต่างประเทศใกล้ชิด เตือนภาวะตลาดช่วงนี้ผันผวนสูง ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,245 จุด จึงอาจมีนักลงทุนที่ทำการตัดขาดทุนทางเทคนิค ซึ่งคาดว่าแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,230 จุด ระบุ เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นดีราคาถูก

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ วันนี้ (7 ม.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลงแรงตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นจีน โดยแตะระดับต่ำสุดที่ 1,231.82 จุด สูงสุดที่ 1,244.04 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 1,240.65 จุด ลดลง 19.39 จุด หรือคิดเป็น 1.54% มูลค่าการซื้อขาย 24,234.33 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยปรรับตัวลดลดค่อนข้างแรงสอดคลองต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งได้รับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นจีนที่จะครบกำหนดมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกในวันพรุ่งนี้ และนักลงทุนยังกังวลเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรงด้วย

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ให้ติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หากมีแนวโน้มดีขึ้นจะส่งผลบวกต่อราคาหุ้นเช่นกัน โดยบ่ายนี้ ดัชนีตลาดหุ้นยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบแต่อาจจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากแรงซื้อเข้ามาในหุ้นหลายตัว แนวรับ 1,235 แนวต้าน 1,250 จุด

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง ( ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเช้าปรับตัวลดลงกว่า 2% ตามตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะจีน ที่ต้องหยุดการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิต เบรกเกอร์) หลังจากดัชนีร่วงแรงกว่า 7% อันเป็นผลจากมีความกลัวเศรษฐกิจจีนที่แย่

นอกจากนี้ ยังถูกปัจจัยลบจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางกดดันเพิ่ม รวมทั้งการทดสอบขีปนาวุธไฮโดรเจนของเกาหลีเหนือ ประกอบกับพื้นฐานเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอขณะนี้ ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจจึงเทขายหุ้นออกมาทั่วโลก

ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,245 จุด จึงอาจมีนักลงทุนที่ทำการตัดขาดทุนทางเทคนิค ซึ่งคาดว่าแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,230 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดปรับตัวลงแรงกว่า 27 จุด โดยมีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากปัจจัยลบในต่างประเทศรุมเร้าเหมือนกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย

สำหรับคำแนะนำสำหรับนักลงทุนในระยะสั้น ควรติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ตลาดยังมีความผันผวนสูง และนักลงทุนระยะยาวเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีราคาถูก


กำลังโหลดความคิดเห็น