อินโดราม่า เวนเจอร์ส แจ้ง ตลท.เหตุเข้าซื้อกิจการโรงงานปิโตรเคมี ของ BP คาดสามารถถ่ายโอนสิทธิเสร็จเรียบร้อยภายในครึ่งแรกของปี 2559 โบรกฯ เชื่อช่วยดันรายได้ผลประกอบการครึ่งปี EBITDA เพิ่มได้ 6.6%
บมจ.อินโดราม่า เวนเจอร์ส หรือ IVL ได้ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงการเข้าซื้อโรงงานแปรรูปปิโตรเคมีในสัดส่วน 100% ของโรงงานผลิต PX, PTA และ naphthalene dicarboxylate (NDC) ในประเทศสหรัฐอเมริกา จาก BP Amoco Chemical (BP) กำลังการผลิตรวม 1.8 ล้านตัน/ปี (MTA) ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Decatur รัฐ Alabama โดยโรงงานดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพของ IVL ในแง่ความมั่นคงของวัตถุดิบทั้ง PX และ PTA ให้แก่โรงงาน PET ในสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ ได้แก่ กระจายไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET เปิดเผยว่า การรับรู้ผลประกอบการครึ่งปีคาดจะช่วยเพิ่ม EBITDA ได้ 6.6% โดยแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 31.00 บาท
“การซื้อกิจการในครั้งนี้คาดแล้วเสร็จในครึ่งแรกของปี 2559 โดยประเมินไว้ที่ประมาณ 500 ล้านเหรียญ ซึ่งถูกรวมไว้ในแผนลงทุน CAPEX ในปี 2559 ที่ประกาศไว้ที่ 1,000 ล้านเหรียญแล้ว โดยใช้เงินลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการ และเงินกู้บางส่วน อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ยอมรับได้”
ทั้งนี้ IVL เชื่อว่าการซื้อกิจการในครั้งนี้ส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจในอเมริกาเหนือ จากการเป็นผู้ผลิตครบวงจรเพียงรายเดียวในภูมิภาคดังกล่าว วัตถุดิบในการผลิต PX และ NDC ส่วนใหญ่มาทางท่อจากโรงกลั่นของ BP ในบริเวณเดียวกัน และมีสัญญาซื้อขายระยะยาว นอกจากนั้น ยังสามารถสร้างความกลมเกลียวต่อกันจากการมีโรงงานอยู่ติดกับโรงงานเดิมของ IVL
ขณะที่ส่วนของกำลังการผลิต 1.8 ล้านตันต่อปีของโรงงาน BP แบ่งเป็น PX 0.72 ล้านตัน PTA 1.02 ล้านตันต่อปี ที่เหลืออีกเล็กน้อยเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ NDC หากประเมินกำลังการผลิตส่วนเพิ่มเฉพาะ PTA การซื้อกิจการครั้งนี้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 11.6% ของกำลังการผลิตปี 2558 ที่ 8.8 ล้านตันต่อปี
“โรงงานดังกล่าวใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 80% ซึ่ง IVL มีแผนจะเพิ่มการใช้กำลังการผลิตขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 85%”
ในส่วนของ NDC ถือเป็นผลิตภัณฑ์เคมีชนิดพิเศษ ที่ปัจจุบันโรงงานของ BP เป็นผู้ผลิตเพื่อจำหน่ายเพียงรายเดียวในโลก จึงมีอัตรากำไร (EBITDA margin) สูงถึง 35-40% โดยประเมินว่า การซื้อกิจการในครั้งนี้ของ IVL เป็นการต่อยอดการลงทุนในภูมิภาคอเมริกาเหนือ การรับรู้ผลประกอบการครึ่งปีคาดจะช่วยเพิ่ม EBITDA ได้ 6.6% จากการคาดการณ์ EBITDA ในปี 2559 ที่ 715 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังคงแนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 31.00 บาท