“รุ่งกิจ เรียลเอสเตท” เชื่อเศรษฐกิจปี 59 ฟื้นตัวหลังรัฐออกมาตรการกระตุ้น ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หนุนอสังหาฯ โตตาม คาดคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าเปิดตัวมากขึ้น เผยแผนปี 59 เปิด 3 โครงการ มูลค่า 2,400 ล้านบาท เน้นบ้านไม่เกิน 3 ล้าน รองรับนโยบายรัฐสนับสนุนบ้านผู้มีรายได้น้อย
นายวรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด หรือ RK เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในปี 2559 มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมันให้แก่นักลงทุน และผู้บริโภค การส่งออกของไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง นอกจากนี้ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี จะทำให้การค้าขาย การลงทุน และสามารถสร้างรายได้แก่ประชาชนได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจตามแนวชายแดนไทยเติบโตมาก
“การเปิด เออีซี จะทำให้เศรษฐกิจตามหัวเมืองหลักตามแนวชายแดนจะช่วยให้ไทยฐานของการผลิต การขนส่ง คมนาคม โดยเฉพาะการในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะคึกคักยิ่งขึ้นหลังเปิดเออีซี โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หัวเมืองหลักที่ติดชายแดนจะได้รับอานิสงส์ค่อนข้างมาก การค้า การลงทุนตามแนวชายแดนสดใสขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และต่อเนื่องมายังภาคอสังหาฯ ที่เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยรูปแบบต่างๆ มากขึ้น”
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 59 คาดว่าตลาดจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ภาครัฐออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้เห็นได้ชัดได้ในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดในเขต กทม.และปริมณฑล โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจะมีจำนวนโครงการใหม่เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น
สำหรับส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขนาดราคา 1-3 ล้านบาท เพื่อรองรับนโยบายสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล ขณะที่ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านระดับกลางถึงล่างนั้นยังมีอีกจำนวนมาก แม้ว่าในปีที่ผ่านมา ลูกค้ากลุ่มนี้จะถูกปฏิเสธสินเชื่อจำนวนมากก็ตาม แต่ภายหลังรัฐบาลได้ออกมาตรการด้านการเงินผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่นหันมาลดความเข้มงวดลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้
นอกจากนี้ บริษัทถือเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องต่อสภาพตลาด และนโยบายของรัฐเพื่อความอยู่รอด ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งปี 59 รัฐบาลจะให้น้ำหนักต่อโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อยมากขึ้นกว่าปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ย่านรามคำแหง 250 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น 200 ยูนิต ราคาขายเริ่ม 3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น และ 1 ชั้น อีก 400 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 1 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา บริษัทยอดรับรู้รายได้แล้วกว่า 1,200 ล้านบาท
