รมว.คลัง ประกาศมาตรการภาษีกระตุ้นใช้จ่ายปลายปี 58 เพื่อกระตุ้นการบริโภค ดันจีดีพีของปีนี้เติบโตได้อีก 0.1-0.2% บิ๊กสรรพากร ยอมรับสูญรายได้ 4-5 พันล้าน แต่จะได้ภาษีแวตกลับคืนมา และเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับ ปชช. จึงถือว่าสิ่งที่ได้กลับคืนมาคุ้มค่ามากกว่าสิ่งที่เสียไป
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ประกาศมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2558 เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้กระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 0.1-0.2% โดยมาตรการภาษีดังกล่าวไม่รวมสินค้าและบริการเป็นอบายมุขทุกชนิด รวมถึงสินค้าสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมัน-ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
ทั้งนี้ ในมาตรการดังกล่าวกำหนดให้เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ในระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.58 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.58 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ยอมรับว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐมีการสูญเสียรายได้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท แต่ในทางกลับกันจะมีรายได้ทางอ้อมจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กลับเข้ามา รวมทั้งมาตรการนี้ยังเป็นมาตรการที่ช่วยให้ประชาชนมีความสุขในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จึงถือว่าสิ่งที่ได้กลับคืนมาคุ้มค่ามากกว่าสิ่งที่เสียไป
อย่างไรก็ดี บุคคลที่จะได้สิทธิตามมาตรการดังกล่าวของรัฐบาลนี้ ได้แก่ บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงคณะบุคคล