ASTVผู้จัดการรายวัน - สรรพากรรวบขบวนการโกงแวตส่งออกและขายใบกำกับภาษีปลอม 2 พันล้าน เป็นนิติบุคคลกว่า 50 ราย กระจายอยู่ใน 12 จุดทั่ว กทม.
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร แถลงข่าวการจับกลุ่มผู้กระทำผิดทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ส่งออกและขายใบกำกับภาษีปลอม มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งพบการขบวนการทำผิดเป็นนิติบุคคลกว่า 50 ราย กระจายอยู่ใน 12 จุดทั่วกทม. เช่น ย่านห้วยขวาง ดินแดง บางแค ลาดกระบัง ส่วนการขอคืนพบในเขตลาดกระบัง สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
“กรมได้ติดตามเพื่อจับกุมขบวนการดังกล่าวมาร่วม 40 วัน พบว่า ขบวนการดังกล่าวร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์ เพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงมีการทำธุรกรรมทางการเงินโดย การโอนเงินเข้าและโอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร ด้วยการหมุนเวียนเงินจากผู้ประกอบการในกลุ่มผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างพยานหลักฐานให้เชื่อว่า มีการรับชำระเงินและการจ่ายชำระเงินค่าสินค้ากันจริง”
นายประสงค์ระบุว่า ขบวนการดังกล่าว มีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554-2556 โดยกรมสรรพากรได้ประสานขอความร่วมมือ ไปยังกรมสรรพากรในต่างประเทศ ตามหลักฐานใบขนสินค้าขาออกของกรมศุลกากร และสรรพากรในต่างประเทศได้ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลบริษัทที่เป็นผู้ซื้อ ยังได้รับข้อมูลจากกรมศุลกากรว่า กลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าทุจริตการส่งออกโดยสำแดงสินค้าไม่ตรงตามใบขนสินค้าขาออก และมีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออก ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ทางราชการเป็นจำนวนมาก
ผลการผลการตรวจค้นทั้ง 12 จุด พบหลักฐานทางการเงิน ใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รวมทั้งตรวจพบหลักฐานเอกสารที่เชื่อมโยงไปถึงตัวการ และผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก ซึ่งกรมสรรพากรจะทำการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับความผิดข้อหาออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นความผิดตาม มาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้ประกอบการโดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี เป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (7) แห่งประมวลรัษฎากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท.
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร แถลงข่าวการจับกลุ่มผู้กระทำผิดทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ส่งออกและขายใบกำกับภาษีปลอม มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งพบการขบวนการทำผิดเป็นนิติบุคคลกว่า 50 ราย กระจายอยู่ใน 12 จุดทั่วกทม. เช่น ย่านห้วยขวาง ดินแดง บางแค ลาดกระบัง ส่วนการขอคืนพบในเขตลาดกระบัง สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
“กรมได้ติดตามเพื่อจับกุมขบวนการดังกล่าวมาร่วม 40 วัน พบว่า ขบวนการดังกล่าวร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์ เพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงมีการทำธุรกรรมทางการเงินโดย การโอนเงินเข้าและโอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร ด้วยการหมุนเวียนเงินจากผู้ประกอบการในกลุ่มผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างพยานหลักฐานให้เชื่อว่า มีการรับชำระเงินและการจ่ายชำระเงินค่าสินค้ากันจริง”
นายประสงค์ระบุว่า ขบวนการดังกล่าว มีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554-2556 โดยกรมสรรพากรได้ประสานขอความร่วมมือ ไปยังกรมสรรพากรในต่างประเทศ ตามหลักฐานใบขนสินค้าขาออกของกรมศุลกากร และสรรพากรในต่างประเทศได้ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลบริษัทที่เป็นผู้ซื้อ ยังได้รับข้อมูลจากกรมศุลกากรว่า กลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าทุจริตการส่งออกโดยสำแดงสินค้าไม่ตรงตามใบขนสินค้าขาออก และมีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออก ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ทางราชการเป็นจำนวนมาก
ผลการผลการตรวจค้นทั้ง 12 จุด พบหลักฐานทางการเงิน ใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รวมทั้งตรวจพบหลักฐานเอกสารที่เชื่อมโยงไปถึงตัวการ และผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก ซึ่งกรมสรรพากรจะทำการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับความผิดข้อหาออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นความผิดตาม มาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้ประกอบการโดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี เป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (7) แห่งประมวลรัษฎากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท.