บอร์ด “ท่าเรือราชาเฟอร์รี่” ไฟเขียวซื้อเรือเพิ่ม รองรับการเติบโตของธุรกิจ และเศรษฐกิจภาคใต้ พร้อมเพิ่มเส้นทางใหม่ 4 เที่ยวตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าด้านพาณิชย์ และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างมาก ขณะที่อยู่ระหว่างศึกษาการเปิดเส้นทางเดินเรือเพิ่มฝั่งอันดามัน คาดสรุปต้นปี 59
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งล่าสุด ที่ประชุมมีมติให้บริษัทฯ ซื้อเรือเพิ่มจากแผนเดิม 1 ลำ เป็น 2 ลำ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ และเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น และเติบโตอีกเท่าตัวในปี 2559
ทั้งนี้ RP ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อเดือน พ.ย.58 จำนวน 38 ล้านหุ้น ในราคา IPO 12 บาท ได้เม็ดเงินมาทั้งสิ้น 456 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อซื้อเรือลำใหม่ การลงทุน และพัฒนาท่าเรือให้ทันสมัย รวมทั้งนำไปชำระหนี้ระยะยาว 38 ล้านบาท กับธนาคารซีไอเอ็มบี ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มเส้นทางใหม่อีก 4 เที่ยว ระหว่าง สมุย-พะงัน/พะงัน-สมุย ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.เป็นต้นมา เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั้งด้านพาณิชย์ และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างมาก ขณะเดียวกัน ก็กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเปิดเส้นทางเดินเรือเพิ่มเติมฝั่งในฝั่งอันดามันคือ กระบี่-เกาะพีพี เพราะมีปริมาณนักท่องเที่ยวสูงมากถึง 15,000 คนต่อวัน คาดว่าจะสรุปแผนการลงทุนดังกล่าวได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า และเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 2 โดยจะเช่าท่าเรือชั่วคราวในจังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะแรก
สำหรับที่ดินของบริษัทฯ 66 ไร่ บริเวณด้านหลังท่าเรือดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายที่จะพัฒนาใดๆ ภายใน 3 ปีนี้ เนื่องจากต้องการมุ่งเน้นเรื่องสำคัญคือ พัฒนาบริการท่าเรือ และกิจการเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักก่อนในลำดับแรก RP เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือมากว่า 35 ปี อีกทั้งผลประกอบการมีกำไรโดยตลอด ดังจะเห็นว่า 5 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลกำไรเฉลี่ยในอัตราร้อยละ 5-10 และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ฯ มีเรือเฟอร์รี่ที่ทันสมัย พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีจำนวนกองเรือมากที่สุดในประเทศถึง 12 ลำ ให้บริการเดินเรือกว่า 40 เที่ยวต่อวัน เพื่อขนส่งผู้โดยสาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยานพาหนะ รถบรรทุก และอุปกรณ์เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ รวมทั้งการขนส่งรถเพื่อธุรกิจ Logistic ขนาดใหญ่บนเส้นทางดอนสัก-สมุย และดอนสัก-พะงัน
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งล่าสุด ที่ประชุมมีมติให้บริษัทฯ ซื้อเรือเพิ่มจากแผนเดิม 1 ลำ เป็น 2 ลำ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ และเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น และเติบโตอีกเท่าตัวในปี 2559
ทั้งนี้ RP ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อเดือน พ.ย.58 จำนวน 38 ล้านหุ้น ในราคา IPO 12 บาท ได้เม็ดเงินมาทั้งสิ้น 456 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อซื้อเรือลำใหม่ การลงทุน และพัฒนาท่าเรือให้ทันสมัย รวมทั้งนำไปชำระหนี้ระยะยาว 38 ล้านบาท กับธนาคารซีไอเอ็มบี ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มเส้นทางใหม่อีก 4 เที่ยว ระหว่าง สมุย-พะงัน/พะงัน-สมุย ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.เป็นต้นมา เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั้งด้านพาณิชย์ และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างมาก ขณะเดียวกัน ก็กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเปิดเส้นทางเดินเรือเพิ่มเติมฝั่งในฝั่งอันดามันคือ กระบี่-เกาะพีพี เพราะมีปริมาณนักท่องเที่ยวสูงมากถึง 15,000 คนต่อวัน คาดว่าจะสรุปแผนการลงทุนดังกล่าวได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า และเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 2 โดยจะเช่าท่าเรือชั่วคราวในจังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะแรก
สำหรับที่ดินของบริษัทฯ 66 ไร่ บริเวณด้านหลังท่าเรือดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายที่จะพัฒนาใดๆ ภายใน 3 ปีนี้ เนื่องจากต้องการมุ่งเน้นเรื่องสำคัญคือ พัฒนาบริการท่าเรือ และกิจการเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักก่อนในลำดับแรก RP เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือมากว่า 35 ปี อีกทั้งผลประกอบการมีกำไรโดยตลอด ดังจะเห็นว่า 5 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลกำไรเฉลี่ยในอัตราร้อยละ 5-10 และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ฯ มีเรือเฟอร์รี่ที่ทันสมัย พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีจำนวนกองเรือมากที่สุดในประเทศถึง 12 ลำ ให้บริการเดินเรือกว่า 40 เที่ยวต่อวัน เพื่อขนส่งผู้โดยสาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยานพาหนะ รถบรรทุก และอุปกรณ์เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ รวมทั้งการขนส่งรถเพื่อธุรกิจ Logistic ขนาดใหญ่บนเส้นทางดอนสัก-สมุย และดอนสัก-พะงัน
