xs
xsm
sm
md
lg

“โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” ถูกเลือกคำนวณ SET100

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” ถูกเลือกเข้าคำนวณใน SET 100 ดีเดย์ 1 มกราคม 2559 มั่นใจโครงการลงทุนโรงไฟฟ้า และสาธารณูปโภคเติบโตตามแผน ยันปัจจัยราคาน้ำมันไร้ผลกระทบต่อธุรกิจ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่จะใช้คำนวณดัชนี SET100 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2559 โดยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำด้านพลังงานไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ได้เข้า SET100 อย่างเป็นทางการ มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแกร่ง อนาคตสดใส เพิ่มแรงจูงใจนักลงทุนต่างชาติ-สถาบันเพิ่มน้ำหนักลงทุน

ดร.เติมชัย บุนนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้คัดเลือกหลักทรัพย์ชุดใหม่เข้าคำนวณในดัชนี SET100 ซึ่งจะมีผลในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2559 (1 มกราคม-30 มิถุนายน 2559) นั้น GPSC ติดอยู่ในรายชื่อที่ได้รับการคำนวณ สะท้อนให้เห็นว่า GPSC มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ GPSC โดยเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่น และความน่าสนใจในการลงทุน รวมทั้งดึงดูดให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น

ทั้งนี้ GPSC ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์การเติบโต ขยายโครงการทั้งใน และต่างประเทศ ไร้ผลกระทบจากเศรษฐกิจที่กำลังผันผวนจากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบโลกซึ่งปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง มั่นใจธุรกิจไฟฟ้า และสาธารณูปโภคเป็น Mega Trend ของโลกในปัจจุบัน เนื่องจากรายได้แน่นอน สัญญาซื้อขายระยะยาว จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจผันผวน

“GPSC เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงแม้ในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน เนื่องจากประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่มีสัญญาซื้อขายระยะยาว 15-25 ปี กับลูกค้าของเรา ทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นหน่วยงานภาครัฐ และอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคง ซึ่งทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ที่แน่นอน รวมทั้งยังมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการขยายธุรกิจให้เติบโตทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีเป้าหมายในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยกำหนดเป้าหมายระยะสั้นที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มจากปัจจุบันอีก 600-1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ.2562 ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของบริษัท ด้วยเหตุนี้ GPSC จึงเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ตอบรับกับกระแสการลงทุนของโลกในปัจจุบัน” ดร.เติมชัย กล่าว

“นอกจากนี้ ผลประกอบการล่าสุดงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 กำไรเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และสำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 GPSC มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ที่ลงทุนและพัฒนาทั้งใน และต่างประเทศซึ่งยังคงขยายตัว และเติบโตตามแผนงาน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ระยะสั้นในการเข้าลงทุนในกิจการที่พร้อมปฏิบัติการ และที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าหากโครงการเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดจะทำให้รายได้ และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนในอนาคตระยะยาว GPSC ก็จะเน้นในการลงทุนในโครงการใหญ่ และโครงการเกี่ยวเนื่องอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นคงในการขยายตัวและเติบโต” ดร.เติมชัย กล่าวเสริม


กำลังโหลดความคิดเห็น