นักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิ่งต่อเนื่อง กดดันดัชนีตลาดหุ้นหลุดแนวรับ 1,300 จุด ปิดที่ 1,297.82 จุด ลดลงกว่า 9.16 จุด หรือ 0.70% มูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (8 ธ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่ผลประกอบการอาจจะได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว รวมถึงแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) ทำให้ดัชนีหุ้นปรับตัวเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 1,300 จุด
โดยดัชนีตลาดหุ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,316.19 จุด ต่ำสุดที่ 1,294.41 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,297.82 จุด ลดลงจากวันก่อนกว่า 9.16 จุด หรือคิดเป็น 0.70% มูลค่าการซื้อขายรวม 34,326.69 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,419.17 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 911.16 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 454.86 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,875.47 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ราคาปิดที่ 41 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,803.00 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 232 บาท ลดลง 9 บาท หรือ 3.73% มูลค่า 2,233.70 ล้านบาท และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ราคาปิด 157.50 บาท ลดลง 3 บาท หรือ 1.87% มูลค่า 2,022.02 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง โดยเฉพาะในช่วงบ่ายที่ได้รับปัจจัยลบจากความกังวลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี เหมืองแร่ ที่มีน้ำหนักต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย บวกกันนักลงทุนได้เทขายหุ้นในกลุ่มอื่นๆ ขนาดใหญ่ออกมาผสมโรงด้วย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 1,300 จุด
ขณะที่แนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) คาดตลาดจะมีมูลค่าซื้อขายเบาบาง และนักลงทุนจะรอไปพิจารณาปัจจัยการลงทุนในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 ธ.ค.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ ขณะที่ในประเทศยังรอดูปัจจัยบวกจากการตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์ ที่คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า, การประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz และความคาดหวังต่อเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะเข้ามาในช่วงเดือนสุดท้ายของปี
