ซีอีโอ MBKET มองภาวะตลาดหุ้นไทย Q4/58 ไม่สดใสเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชี้ เป็นผลมาจากการปัจจัยความกังวลสถานการณ์ ศก. เหตุการณ์ก่อการร้าย และสถานการณ์เมืองใน-ต่างประเทศ กดดัน ส่งผลให้ นลท.ชะลอลงทุน และมีแรงเทขายออกมาอย่างมาก พร้อมมองครึ่งแรกปี 59 จะเป็นการแกว่งตัวแบบไซด์เวย์ และจะเริ่มเห็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลัง โดยมองเป้าดัชนีฯ จะอยู่ที่ 1,530 จุด
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยถึงคาดการณ์ผลกำไรสุทธิในปีนี้ โดยประเมินว่าน่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำรสุทธิอยู่ที่ 1.26 พันล้านบาท หรือประมาณ 10% เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยในปีนี้ซบเซา ทำให้ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลงตาม ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงรายได้จากการเป็นหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปรับตัวลง โดยในไตรมาส 3/58 ได้ปรับลงไป 37.82% และรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 85.73% อีกทั้งได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าธรรมเนียมจากการประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และค่าที่ปรึกษาทางการเงินที่ลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิของ บล.ลดลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/58 มองว่า ยังไม่สดใสเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการปัจจัยความกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจ เหตุการณ์ก่อการร้าย และสถานการณ์เมืองในและต่าประเทศกดดัน ทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าลงทุน และมีแรงเทขายออกมาอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลมาถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 ของ บล.มีโอกาสต่ำกว่าไตรมาส 3/58 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้ารักษาการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของประเทศไทย โดยพยายามรักษามาร์เก็ตแชร์ในปี 59 อยู่ที่ 11-12% เช่นเดียวกับปีนี้ จากการดูแลและให้คำแนะนำกับลูกค้าเป็นอย่างดี
“เราก็ยังคงมั่นใจว่าจะรักษามาร์เก็ตแชร์ให้อยู่ที่ 11-12% ในปีหน้า ซึ่งเรายังตั้งใจดูแล และให้บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ อย่างเช่น การให้คำแนะนำในช่วงตลาดไม่ดี ก็ไม่เชียร์ลูกค้าให้เข้ามามาก แต่ถ้าตลาดดีกลับมาก็จะแนะนำเขาให้เข้ามาลงทุน”
สำหรับปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในปี 59 คาดว่าจะสูงกว่าปีนี้ ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 หมื่นล้านบาท โดยปัจจัยสนับสนุนของปริมาณการซื้อขายในปีหน้านั้นจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ ที่คาดว่าจะมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ประกอบการลงทุนของภาครัฐที่จะออกมาให้เห็นในปีหน้าเป็นแรงขับเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัว ซึ่งภาพของการเคลื่อนดัชนีตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกของปีหน้าจะเป็นการแกว่งตัวแบบไซด์เวย์ และครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้มองดัชนีตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังของปี 59 จะอยู่ที่ 1,530 จุด
“ภาพของตลาดหุ้นไทยในปีหน้าก็มีโอกาสดีขึ้นจากปีนี้ โดยเฉพาะครึ่งปีหลังของปีหน้าที่ปัจจัยต่างๆ เริ่มเอื้ออำนวย ซึ่งทำให้ดัชนีจะกลับมาดีดตัวขึ้น เรามองว่าดัชนีในครึ่งปีหลังอยู่ที่ 1,530 จุด ส่วนดัชนีในครึ่งปีแรกอาจจะแกว่งไซด์เวย์อยู่ ก็ตามที่ฝ่ายวิจัยเราทำไว้ ซึ่งฝ่ายวิจัยเราแม่นยำในเรื่องภาพใหญ่ อีกทั้งตลาดดีขึ้น Volumn ก็จะดีตาม และกำไรของเราคงจะกลับมาได้ในระดับ 1 พันล้านบาท”
นอกจากนี้ MBKET มีงานด้านวาณิชธนกิจอยู่ในมือราว 20 ดีล โดยแบ่งเป็นดีลซื้อกิจการ (M&A) อีก 2-3 ดีล ตั้งกอง REIT จำนวน 2-3 ดีล กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 3-4 ดีล IPO ของบริษัทจดทะเบียน 7-10 ดีล การขายหุ้นเพิ่มทุน PO และ PP 2-3 ดีล งานที่ปรึกษาทางการเงินและอื่นๆ 1-2 ดีล ซึ่งสามารถรองรับไปได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ในปี 59 จะมี IPO จ่อเข้าตลาด 4-5 ดีล มูลค่าระดมทุนในช่วง 200-10,000 ล้านบาท
