รัฐมนตรีคลังใช้เวที Thailand Focus โชว์ศักยภาพ และความมั่นคงทางการเมืองไทย หวังดึงนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุนในไทยเพิ่ม และช่วยหนุนจีดีพีให้ขยายตัวสูงขึ้น แย้มคืบหน้าจัดตั้ง Thailand Future Fund แสนล้านภายในปีนี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน Thailand Focus 2015 โดยระบุว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีความมั่นคงทางการเมือง กำลังอยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ และจะมีการเลือกตั้งตามกำหนดเวลา ฐานะการเงินประเทศมั่นคงดี หนี้สาธารณะต่ำร้อยละ 43 ของจีดีพี เป็นหนี้ในประเทศถึงร้อยละ 94 ดังนั้น รัฐบาลยังสามารถใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำที่ร้อยละ 2.8-3.0 ถือว่าต่ำเกินไปสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ใช้เวที Thailand Focus ชี้แจงเพื่อให้นักลงทุนทั่วโลก มีความเข้าใจถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ และแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในปีนี้ ที่จะมีการเซ็นสัญญาใน 6 โครงการ วงเงินรวม 186,000 ล้านบาท และในปีหน้าจะมีการลงทุนเพิ่มอีก 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในกองทุน Thailand Future Fund วงเงิน 100,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลกำลังจัดตั้ง คาดจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในอีก 1-2 สัปดาห์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรูปแบบกองทุนที่ต้องมีความคล่องตัว และมีผลตอบแทนที่ดีในการจูงใจนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนไทย โดยเป็นกองทุนเปิดระยะยาว สามารถลงทุนได้ทั้งโครงการที่กำลังก่อสร้าง และกำลังจะเริ่มก่อสร้าง
ทั้งนี้ มั่นใจว่าเมื่อต่างชาติมีความเข้าใจถึงศักยภาพของไทยจะกลับมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น และจะช่วยให้ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้น จากที่ปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยปรับลงต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนมีการนำเงินลงทุนกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำหรับงาน Thailand Focus จัดขึ้นเป็นเป็นปีที่ 9 ภายใต้ชื่องาน Opportunity Growth and Reform เพื่อนำเสนอความน่าสนใจของตลาดทุนแก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนนำเสนอข้อมูล 120 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 8.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของมูลค่ารวมของตลาด