เน็กซัสชี้ตลาดบ้านระดับลักชัวรีกลางเมือง ฮอตต่อเนื่อง ปี 59 เห็นบ้านราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป เปิดตัวไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท คาดคอนโดฯ ของกลุ่มแสนสิริทุบสถิติแพงสุด 5 แสนบาท/ตร.ม. ขณะที่ปี 58 เปิดตัว 21 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบ้านหรูระดับลักร์ชัวรีใจกลางเมืองเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) มีผลทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อพักอาศัย และลงทุนมากขึ้น เนื่องจากราคาอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศในย่านเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่เข้ามาลงทุนในตลาดนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
จากผลวิจัยของบริษัท พบว่า ตลาดระดับลักชัวรีระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับคอนโดมิเนียม และ 30 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับบ้านในกรุงเทพฯ ชั้นใน และกรุงเทพชั้นนอก ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา มีการเปิดตัว 4,045 หน่วย โดยแบ่งเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ กลางใจเมือง 129 หน่วย บ้านเดี่ยวรอบนอกเมือง 1,263 หน่วย และคอนโดมิเนียม 2,653 หน่วย
ในปี 2558 มีโครงการระดับลักชัวรีเปิดใหม่เกิดขึ้น 21 โครงการ จำนวน 2,500 ยูนิต มูลค่า 20,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ นับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีราคาเฉลี่ย 288,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งปรับตัวจากปีที่แล้วถึง 18% ส่วนปีหน้าคาดว่าราคาเฉลี่ยจะขยับขึ้นไปที่ 3 แสนบาท/ตร.ม.
ส่วนปี 2559 มีผู้ประกอบการประกาศเตรียมเปิดตัวแล้วกว่า 10 โครงการมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 5 โครงการ อาทิ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด (มหาชน) เปิดคอนโดฯ หรูย่านชิดลม, บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดคอนโดฯ ทำเลถนนวิทยุ คาดว่าจะมีระดับราคาสูงสุดทุบสถิติที่ระดับราคา 5 แสนบาท/ตร.ม. และทำเลสุขุมวิท 38, บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาคอนโดฯ ทำเล สุขุมวิท 38 และบริษัท สยามสินธร จำกัด พัฒนาโครงการปาร์ค วิว ทำเลหลังสวน แบ่งเป็น 2 อาคาร ได้แก่ ต้นสน พาร์ค วิว และหลังสวน พาร์ค วิว
ส่วนบ้านเดี่ยวประกาศเตรียมเปิดตัวแล้ว 5 โครงการ อาทิ บริษัท ชาญอิสสระ จำกัด เปิดโครงการบ้านเดี่ยว ทำเลพระราม 9, บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) ทำเลซอยศูนย์วิจัย, บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ทำเลซอยอารีย์, บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด เปิดบ้านเดี่ยวหรู ทำเลพระราม 9 และบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เปิดโครงการทำเลสุขุมวิท
“ผู้เล่นในตลาด แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ กลุ่มนี้จะเน้นพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมเป็นกลุ่มที่อยู่ในตลาดมานานแล้ว กับกลุ่มนักพัฒนาขนาดกลางที่พัฒนาสินค้าที่ niche วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าในระดับบน ทำโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก นอกจากนี้ ยังมีนักพัฒนารายใหม่ที่สนใจเข้ามาจับตลาดนี้หลายราย เนื่องจากเชื่อว่ายังคงมีดีมานด์ สินค้าสามารถทำตลาดได้ไม่ยาก และขายให้กับผู้ซื้อเพียงไม่กี่ราย” นางนลินรัตน์ กล่าว
สำหรับโครงการที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2554 ยอดขายรวมบ้านและคอนโดในตลาดนี้อยู่ที่ 53% โครงการบ้านหรูรอบนอกยอดขายอยู่ที่ 43% บ้านในเมืองอยู่ที่ 60% และ คอนโดมิเนียมอยู่ที่ 57% ทั้งนี้ อุปทานที่เหลือส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เปิดขายในปีนี้เป็นหลัก
ในส่วนของระดับราคาสินค้าซูเปอร์ลักชัวรีมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการปรับตัวสูงขึ้นของราคามาจาก สินค้าที่มีความหรูหรามากขึ้น และต้นทุนที่ดิน และต้นทุนค่าก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม การตั้งราคาสินคาประเภทนี้ขึ้นอยู่กับความหรูหราของโครงการ รายละเอียด material วัสดุอุปกรณ์ที่ให้ในโครงการเป็นอย่างมาก
“ปีหน้าตลาดนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีโครงการบ้านรูปแบบใหม่ๆ ในระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ จากทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ และน่าจะมีสินค้ารูปแบบใหม่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ซึ่งมี design แตกต่าง ฟังชันบ้านตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้า โดยอยู่ในทำเลใจกลางเมือง สงบ แต่ใกล้แหล่ง luxury lifestyle ซึ่งเป็นทำเลที่เหมาะสมกับการพัฒนาสินค้าประเภทนี้มากที่สุด” นางนลินรัตน์ กล่าว
ส่วนตลาดต่างชาติยังคงมีความสำคัญ เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ยังถูกกว่า เมื่อเทียบกับในต่างประเทศ ทำเลที่ลูกค้ากลุ่มนี้มองหา ยังคงเป็นสุขุมวิท หลังสวน และสาทรเป็นหลัก เนื่องจากเป็นทำเลยอดนิยม และต่างชาติคุ้นเคยเป็นอย่างดี ปีหน้าทำเล นอกจากสุขุมวิท หลังสวน ที่น่าจับตามอง คือ พหลโยธินตอนต้น และซอยอารีย์ ก็น่าจะมาแรงสำหรับบ้านใจกลางเมืองราคาสูง เนื่องจากเป็นทำเลที่หาที่ดินค่อนข้างยาก และราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสุขุมวิท