ตลาดหลักทรัพย์วันนี้ปิดทำการที่ 1,359.70 จุด ลดลง 3.43 จุด (-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 44,890.42 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ-ดูดีกว่าตลาดภูมิภาคที่ติดลบหนัก เหตุ MSCI ปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ไปทั่วทั้งเอเชีย พร้อมให้ติดตามการประชุม ECB ใน 3 ธ.ค.นี้ เล็งมีปัจจัยบวกจากเก็งเพิ่มวงเงิน QE และอาจมี Surprise เพิ่มจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วย นอกจากนี้ ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ พรุ่งนี้ดัชนีฯ มีโอกาสไต่ขึ้นได้หลังจากปรับน้ำหนักลงทุนไปแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,355-1,350 แนวต้าน 1,365-1,370 จุด
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ ซึ่งดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวลงมาก ยกเว้นตลาดหุ้นจีน เนื่องจาก MSCI ได้มีการปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ไปทั่วทั้งเอเชีย แต่ตลาดหุ้นไทยดูเหมือนว่ามีการรับรู้ไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่มองว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะกดตลาดฯ หลังจากนี้ประเด็นนี้จะเริ่มคลายตัว
พร้อมให้ติดตามปัจจัยบวกจาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ซึ่งตลาดฯ ก็มองว่าอาจจะมีการเพิ่มวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่ก็ต้องรอดูว่าจะเพิ่มเท่าไร อีกทั้งมีบางส่วนมองว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปด้วย ซึ่งหากเป็นจริงก็จะสร้าง Surprise ให้กับตลาดฯ ได้ นอกจากนี้ก็ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ (4 ธ.ค.) ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) นายเกียรติก้อง กล่าวว่า ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะเริ่มไต่ขึ้นไปได้หลังจากที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักการลงทุนไปแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,355-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,365-1,370 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,948.92 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,830.99 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 6.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,485.65 ล้านบาท ปิดที่ 256.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,039.66 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,869.18 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 0.50 บาท