แรงกดดันจากโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ สร้างแรงเทขายทองคำต่อเนื่อง ฉุดราคาปรับลงหาจุดต่ำสุดใหม่ “วายแอลจี” เชื่ออยู่ในช่วงสร้างราคา แต่ภาพรวมแม้ร่วงหนักจากแรงขาย ยังพบแรงซื้อเข้ามาสะสม แนะลงทุนระยะสั้นเพื่อทันต่อเหตุการณ์
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ผ่านมามีการอ่อนตัวต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบปี และต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยอ่อนตัวลงไปถึง 1,074 เหรียญ/ออนซ์ ก่อนดีดกลับขึ้นมาอย่างค่อนข้างจำกัด โดยขึ้นไปบริเวณ 1,083 หรียญ/ออนซ์ และเริ่มเผชิญแรงขายทำกำไรจนย่อตัวกลับลงมา
“จะเห็นว่าการอ่อนตัวของราคายังคงมีแรงซื้ออยู่แต่การขยับขึ้นค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้ราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีการส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธันวาคมนี้ แม้ว่าประธานกลางสหรัฐฯ นางเจเนต เยลเลน จะไม่ได้แสดงความคิดเห็น หรือให้มุมมองแนวโน้มของเศรษฐกิจ หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ราคาทองคำก็รับข่าวในเชิงลบค่อนข้างมาก”
ขณะที่การลงทุนในสัปดาห์นี้่ สำหรับโกลด์ ฟิวเจอร์ส เชื่อว่ายังแนะนำให้เป็นการถือสถานะShort เพราะราคาทองคำยังไม่สามารถตั้งฐานได้ และยังคงมีการปรับฐานลง และทำระดับต่ำใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงทิศทางเป็นขาลง แต่สำหรับนักลงทุนที่ยังคงเป็นลักษณะการเข้าสะสมทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ ระดับดังกล่าวถือว่าเป็นระดับค่อนข้างถูกในรอบหลายปี แต่ในส่วนของการลงทุนยังเน้นให้ลงทุนในระยะสั้น เพราะยังต้องจับตาดูในส่วนที่เป็นแรงซื้อที่เข้ามาพยุงตลาดทองคำ และการตั้งฐานของราคาทองคำด้วย
ทั้งนี้ “วายแอลจี” ประเมินในส่วนของแนวต้านว่า หากราคายังไม่ผ่านโซนดังกล่าว ในมุมมองยังคงเป็นลบ โดยให้แนวต้านระยะสั้นจะอยู่ที่บริเวณ 1,100-1,120 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากยังไม่ผ่านบริเวณ 1,120 เหรียญ/ออนซ์ โอกาสที่ราคาจะปรับฐานลงมายังมีความเป็นไปได้ แต่หากผ่านกลับขึ้นไปยืนได้แนวโน้มจะเป็นบวกมากขึ้น และมีโอกาสที่จะทดสอบโซนแนวต้านบริเวณ 1,145เหรียญ/ออนซ์ โดยประเมินในส่วนของโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 1,050 เหรียญ/ออนซ์ ดังนั้น ภาพรวมหากตั้งฐานได้อ่านมีโอกาสดีดตัวขึ้น แต่หากตั้งฐานไม่ได้มีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา ประเมินว่าคือ แรงซื้อที่ยังคงเข้ามาในตลาดทองคำ เพราะดูเหมือนว่าแรงซื้อที่จะเข้ามายังคงมีไม่มากนัก โดยกองทุนทองคำ SPDR ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีการขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีการถือครองทองคำแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ปี 2008 เช่นเดียวกับกองทุนทองคำขนาดใหญ่อีก 8 กองทุน ที่มีการเข้าไปลงทุนในตัวทองคำยังมีการลดการถือครองทองคำลง โดยการลดการถือครองทองคำแตะระดับต่ำสุด ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2010 โดยปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่แสดงให้เห็นแรงซื้อทองคำค่อนข้างน้อย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสภาทองคำโลกมีการเปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งราคาทองคำมีการย่อตัวแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ทำให้เกิดแรงซื้อในส่วนของทองคำในส่วนรูปแบบอัญมนี เหรียญทองคำ และทองคำแท่ง โดยอุปสงค์รวมแตะระดับ 1,121 ตัน ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 8 ตัน แสดงให้เห็นว่าเมื่อราคาทองคำมีการอ่อนตัวมากๆ ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำด้วยเช่นกัน