เคทีซี แจ้งกำไรไตรมาส 3 จำนวน 499 ล้าน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 504 ล้านบาท แต่ช่วง 9 เดือนกำไรยังเติบโต 16% จากใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยังโต 11.9% ขณะที่เอ็นพีแอลลดลงต่อเนื่องเหลือ 2.2% จาก 2.7%
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC)เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำกำไรเท่ากับ 1,538 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากรายได้รวม 9 เดือนเติบโตที่ 9% การบริหารต้นทุนด้านการเงินให้ต่ำลง และประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ และการควบคุมให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม (NPL) ลดลงต่อเนื่อง สำหรับไตรมาสที่ 3/2558 มีกำไรสุทธิ 499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 2/2558 แต่ลดลงจากไตรมาส 3/2557 ที่มีมูลค่า 504 ล้านบาท เนื่องจากรายได้เติบโตน้อยกว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้แก่บริษัทภายนอก และการตัดหนี้สูญและตั้งหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ต
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยังคงเติบโตแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว และมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าประมาณการ ในส่วนของเคทีซีเองยังคงความสามารถในการสร้างรายได้ และทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตร และการขยายตัวของยอดลูกหนี้ทั้ง 2 ธุรกิจ คือ บัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล อีกทั้งการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่เหมาะสม จากนโยบายการอนุมัติบัตรที่เข้มงวด และกระบวนการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 54,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 50,852 ล้านบาท โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 50,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 47,005 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 2.5 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นบัตรเครดิตกว่า 1.80 ล้านบัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 34,743 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล 735,269 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิ 16,051 ล้านบาท มี NPL ลดเหลือ 2.2% จากเดิม 2.7% บัตรเครดิตลดเหลือ 1.4% จาก 1.9% และ NPL สินเชื่อบุคคลเท่ากับ 1.0% จาก 1.2% และมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตที่ 11.9% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 7.3%
สำหรับรายได้รวมในไตรมาส 3/2558 เท่ากับ 3,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ค่าใช้จ่ายการบริหารงาน 1,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้บริษัทภายนอกในการติดตามหนี้ รวมถึงหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น 14% แต่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินให้ลดลง 13% เป็นผลให้ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทเท่ากับ 3,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
ส่วนแผนการตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทยังคงมุ่งเน้นใน 4 แกนหลักคือ 1) สร้างจุดแข็งในบริการและสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดในทุกหมวดร้านค้า เพื่อให้บัตรเครดิตเคทีซีเป็นบัตรหลักในการใช้จ่าย 2) การคืนกำไรให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี และบัตรสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี พราว” ผ่านคะแนนสะสม Forever Rewards ซึ่งสมาชิกสามารถใช้แลกสินค้าและบริการได้ ณ จุดแลกคะแนนกว่า 3,000 จุด หรือแลกผ่านออนไลน์ และบริการแบ่งชำระ Flexi นานสูงสุด 10 เดือน เพื่อแบ่งเบาภาระสมาชิก 3) การจัดแคมเปญการตลาดสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี พราว” เพื่อให้สมาชิกสามารถใช้วงเงินสินเชื่อ และชำระคืน โดยใช้บริการแบ่งชำระ Flexi ยาวนานถึง 36 เดือน ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ รวมทั้งมีการพัฒนาใช้ระบบการอนุมัติสินเชื่อที่ไวและรับเงินได้ทันที ณ ศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช”
และ 4) การพัฒนาช่องทางดิจิตอลต่อเนื่อง โดยเพิ่มฟังก์ชันบริการใหม่บนโมบาย แอปพลิเคชัน “TapKTC” ให้สมาชิกสามารถเบิกถอนเงินสดออนไลน์เข้าบัญชีธนาคารได้ด้วยตนเองแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีแผนในการขยายธุรกิจร้านค้ารับบัตร เพื่อเพิ่มฐานรายได้ให้แก่บริษัทอีกด้วย