ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.คิงส์เมนฯ จ่ออขายไอพีโอ 60 ล้านหุ้น เตรียมเข้าเทรดในตลาด mai สิ้นปีนี้ ผู้บริหารยันมีความตั้งใจในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และด้วยการเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจงานแสดงสินค้าในประเทศ รวมถึงโอกาสที่เปิดกว้างในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ.(K) เปิดเผยว่า K ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยในขณะนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 7 พ.ย.58 เพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
ภายหลังการเสนอขายห้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นไอพีโอ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ทั้งนี้ K เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานอย่างครบวงจร (One-Stop-Shop Solution) ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายในครบวงจร (Interiors), งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), งานการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และงานพิพิธภัณฑ์ (Museums & Thematic Park) ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 26 ปี บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับประเทศ และระดับโลกที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีนโยบายในการทำการตลาดที่ต่อเนื่อง และมีการกระตุ้นยอดขายสม่ำเสมอ ประกอบกับบริษัทฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ และเป็นมืออาชีพ ทำให้ผลงานมีคุณภาพ และส่งมอบได้ตรงเวลา
นอกจากนี้ ในปี 58 คาดว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมมีการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ธุรกิจงานตกแต่งภายในซึ่งมีสัดส่วนรายได้กว่าร้อยละ 50 ของรายได้รวมทั้งหมด ที่คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวของพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2.0 ล้านตารางเมตรในปี 58-59 จากไตรมาส 1/58 ที่มีพื้นที่ค้าปลีกรวม 7.1 ล้านตารางเมตร และธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ ที่มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 40 ของรายได้รวมทั้งหมด ก็มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความมั่นคง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลุ่ม MICE : (Meeting, Incentives, Conferences and Exhibition) มีความมั่นใจในการเข้าร่วมชมงานในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งงานดังกล่าวนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญในการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ K เปิดเผยว่า การเข้าระดมทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ลงทุนขยายโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่ลำลูกกา คลอง 6 และใช้ลงทุนในโรงงานรังสิต-นครนายก คลอง 11 และใช้ลงทุนขยายธุรกิจในพม่า รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคาร
ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันได้ รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อีกด้วย
“เรามุ่งมั่น และมีความตั้งใจในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และด้วยการเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจงานแสดงสินค้าในประเทศ รวมถึงโอกาสที่เปิดกว้างในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากการเปิด AEC และเราได้เริ่มธุรกิจแล้วที่ประเทศพม่า ซึ่งการขยายธุรกิจจะช่วยให้บริษัทฯ มีรายได้ที่แข็งแกร่ง มั่นคง ละเติบโตอย่างยั่งยืนได้” นายชยวัฒน์ กล่าว