อัคคีปราการ โชว์ผลงานไตรมาสที่ 3 กำไรพุ่งกว่า 50% หรือ 18.90 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 57 ที่ทำไว้ 12.52 ล้านบาท แม้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว “วันชัย เหลืองวิริยะ” ผู้บริหารยืนยันพร้อมทำงานหนักเดินหน้าผลักดันผลงานให้เติบโตตามเป้า แม้เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP ผู้บริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูง ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ปี 2558 ว่า กำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2557 ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเข้าสู่กระบวนการเผาทำลายน้อยลง และบริษัทฯ มุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องจึงสะท้อนให้กำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 3/2558 มีรายได้จากการให้บริการ 134.29 ล้านบาท ลดลง จำนวน 16.314 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 10.83 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 150.60 ล้านบาท โดยการลดลงของรายได้เกิดจากปริมาณกากอุตสาหกรรมที่รับกำจัดลดลงคิดเป็นอัตราร้อยละ 8.86 และราคาค่ากำจัดกากอุตสาหกรรมถัวเฉลี่ยต่อตันลดลง คิดเป็นอัตราร้อยละ 2.17 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เนื่องจากในงวดไตรมาสที่ 3/2558 นี้ ไม่มีลูกหนี้การค้าที่เข้าเกณฑ์ต้องตั้งหนี้สงสัยจะสูญ (Allowance for doubtful accounts) เหมือนปี 2557 ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิประจำงวด 18.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 51.23 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 12.52 ล้านบาท ในขณะที่งวดสะสม 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 388.55 ล้านบาท ลดลง 16.51 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.08 จากรายได้ 405.07 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/2557 และมีกำไรสุทธิ 43.07 ล้านบาท จากที่ทำได้ 40.36 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2557 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.70
“งวดไตรมาสที่ 3/2558 AKP ทำผลงานได้ดีถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ เดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ได้เตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี ทั้งรถขนส่ง และภาชนะรองรับกากอุตสาหกรรมให้แก่โรงงานของลูกค้า ทำให้สามารถเติบโตได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งหลังจากนี้ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนพร้อมทำงานหนักเพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายวันชัย กล่าว