ผู้ว่าการ ธปท. สั่งติดตามโครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. ยอมรับหากโครงการมีความเสี่ยงหนี้เสียมากต้องตั้งสำรองเพิ่ม
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ปล่อยกู้ให้ผู้มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อเดือน สามารถขอสินเชื่อบ้านได้ 3 ล้านบาท วงเงิน 10,000 ล้านบาท จะมีผลกระตุ้นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ และทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
สำหรับวงเงินที่ปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นวงเงินที่ไม่สูงมากหากเทียบกับสินเชื่อรวมของธนาคารที่มี 800,000 ล้านบาท ซึ่ง ธปท.จะติดตามผลการปล่อยสินเชื่ออีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกัน ธอส.ต้องติดตามการปล่อยสินเชื่อไม่ให้เป็นหนี้เสีย และไม่เป็นภาระของธนาคารในอนาคต
ส่วนจะเพิ่มการกันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญหรือไม่นั้น มองว่า ธอส.เป็นแบงก์รัฐซึ่งการกันสำรองจะแตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ จึงไม่ใช้เกณฑ์เดียวกัน จะต้องตั้งสำรองฯ เพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพลูกหนี้ และความเสี่ยงสินเชื่อเป็นหลัก
นอกจากนี้ ธปท.จะเร่งผลักดันการใช้ระบบชิปกับบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2559 เพื่อป้องกันปัญหาการโจรกรรมข้อมูลจากบัตร หรือสกิมมิ่ง และสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการ พร้อมพัฒนาระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยมีความมั่นคง ตอบโจทย์ความต้องการประชาชน โดยให้ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถแข่งขัน เข้าถึง เชื่อมโยง และยั่งยืน