“สพพ.” จับมือ “เอดีบี” พัฒนาประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง เชื่อจะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย โดยที่ผ่านมา เอดีบีได้ลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์ และได้ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผ่านโครงการต่างๆ ขณะที่ สพพ. ได้จัดสรรเงินกู้ และเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่ามูลค่ากว่า 1 หมื่น 4 พันล้านบาท แก่ประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสักขีพยานการลงนามร่วมกันระหว่าง นายเจมส์ เอ. นูเจ็น ผู้อำนวยการสำนักเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอดีบี และนายเนวิน สินสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) เพื่อร่วมมือทางหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership Arrangement) ในการดำเนินโครงการความร่วมมือต่างๆ ทั้งระดับประเทศ และภูมิภาค หลังจากเอดีบีได้ร่วมมือกับไทยมากว่า 10 ปี เนื่องจากไทยเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ หากมีประเทศเพื่อนบ้านมีโครงการลงทุน ทั้ง เอดีบี และ สพพ. จะร่วมกันสนับสนุนโครงการการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ครอบคลุมด้านการขนส่ง พลังงาน การพัฒนาเมือง การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ สาธารณสุข และการศึกษา โดยผ่านรูปแบบความร่วมมือหลากหลาย ได้แก่ การปล่อยกู้ร่วม การถ่ายทอดความรู้ และการพัฒนาขีดความสามารถ
ขณะนี้ เอดีบี และ สพพ. กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการร่วมกันพัฒนาเมืองสำคัญตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกในพม่า เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมืองให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตในด้านสาธารณูปโภค เช่น ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า โดยปล่อยกู้ไปแล้ว 1,977 ล้านบาท
ส่วนในปี 59 พร้อมปล่อยกู้โครงการพัฒนานครหลวงเวียงจันทน์ 300 ล้านบาท รองรับการแข่งขันกีฬาเอเชียน เกมส์ และปล่อยกู้ให้กัมพูชา พัฒนาด่านชายแดนหนองเอียด-สะตึงบด 600 ล้านบาท กระทรวงคลังจึงต้องการให้ สพพ.คิดไกลออกไป เหมือนกับว่าประเทศเพื่อนบ้านเป็นอีกจังหวัดหนึ่งของไทย เพื่อช่วยพัฒนาในด้านต่างๆ รองรับสินค้า และการขยายการรลงทุนจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต
โดยที่ผ่านมา เอดีบีได้ลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมูลค่ากว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และได้ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผ่านโครงการต่างๆ รวมทั้งการเชื่อมโยงด้านคมนาคมและพลังงานในอนุภูมิภาค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว และการควบคุมโรคระบาด ในขณะที่ สพพ. ได้จัดสรรเงินกู้ และเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่ามูลค่ากว่า 1 หมื่น 4 พันล้านบาท แก่ประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเชื่อมโยงในด้านต่างๆ ของภูมิภาค