สมาคมไทยรับสร้างบ้าน คาดไตรมาส 4 ตลาดฟื้นตัว เผยตัวเลขผลสำรวจความต้องการ และแผนการสร้างบ้านลูกค้าระบุชัด ลูกค้าต้องการสร้างบ้านในไตรมาส 4 สูงสุดกว่า 38% ขณะที่ไตรมาส 2 เป็นช่วงที่ลูกค้าตัดสินใตสร้างบ้านน้อยที่สุด เชื่อทีม ศก.ใหม่ปลุกตลาด ความเชื่อมั่นลูกค้าฟื้น หลังคลอดมาตรการผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นรูปธรรมชัดเจน เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่มาเสริมให้ภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน ชี้ไตรมาส 3 ตลาดหดตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี หลังเหตุระเบิดทุบความเชื่อมั่น ศก.
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association: THBA) กล่าวว่า จากการรวบรวมผลสำรวจ และความเห็นกลุ่มเป้าหมายในช่วงต้นปี 58 พบผู้บริโภคมีแผนจะสร้างบ้านหลังใหม่ในช่วงไตรมาส 4 มากที่สุด คิดเป็น 38% ส่งผลให้แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาส 4 ของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น จาก 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขณะผู้บริโภคมีแผนจะสร้างบ้านในไตรมาสที่ 3 มีสัดส่วนเพียง 17% ไตรมาส 2 จำนวน 14% และไตรมาส 1 ในสัดส่วน 31%
นอกจากนี้ ผลจากทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบันได้ออกมาปลุกความเชื่อมั่นผู้บริโภค และประชาชน พร้อมๆ กับผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาอย่างมีทิศทางและเป็นรูปธรรมชัดเจน เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่มาเสริมให้ภาคธุรกิจรับสร้างบ้านฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ และต่อเนื่องถึงต้นปี 59 ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรเร่งปรับตัวโดยเร็วในการที่จะโฟกัส และเข้าถึงกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง หรือออกสินค้าใหม่เพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดใหม่ เช่น รับสร้างอพาร์ตเมนต์ อาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องสร้างหารายได้
ส่วนภาวะตลาดรวมรับสร้างบ้านในไตรมาสที่ 3 จากการสำรวจตลาดในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด พบว่า ความต้องการสร้างบ้าน และกำลังซื้อผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ ชะลอตัวเกินคาด เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องมา 18 เดือน นอกจากนี้ เหตุระเบิดบริเวณศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ ยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้กำลังซื้อ และตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ ชะงักงัน และเงียบหดตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี
“ผู้ประกอบการหลายๆ รายที่แข่งขันใน กทม. ยอดขายปีนี้หายวูบอาจกระทบตลาดช่วงปลายปี หากไม่มีปัจจัยบวกใดๆ มาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากมากขึ้น จากการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่ส่งสัญญาณให้เห็นมากขึ้น ขณะเดียวกัน ความต้องการสร้างบ้าน และกำลังซื้อในต่างจังหวัดก็มีการเติบโตแบบชะลอตัว แม้จะมีผู้บริโภคที่สนใจสร้างบ้านหลังใหม่เพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภค 2 ใน 3 ยังยืดเวลาตัดสินใจออกไป เพราะต้องการรอดูแนวโน้ม และทิศทางเศรษฐกิจของประเทศอีกระยะหนึ่ง”
นายสิทธิพร กล่าวว่า บรรยากาศการแข่งขันในไตรมาส 3 เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่คึกคักเหมือนทุกปี ขณะที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในการสร้างบ้านหลังใหม่น้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ซึมยาว และเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น ประกอบกับผู้นำรัฐบาลก็มีการเปลี่ยนทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ จึงทำให้ทุกๆ ฝ่ายชะลอดูทิศทาง และแนวโน้มเศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศไปพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สมาคมฯ ประเมินว่า ปริมาณและมูลค่าตลาดรวม “รับสร้างบ้าน” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดปี 58 คาดว่าจะมีมูลค่าที่ประมาณ 16,000 ล้านบาท แต่สภาพเศรษฐกิจช่วง 3 ไตรมาสที่ชะลอตัวจึงมีความเป็นไปได้ว่ามูลค่าตลาดรับสร้างบ้านรวมปีนี้ มีแนวโน้มลดลงกว่า 20% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ หรือเหลือเพียง 12,000-13,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวม “บ้านสร้างเอง” ทั่วประเทศปีนี้คาดว่ามูลค่ารวมลดลงอยู่ที่ประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาทั่วไปยังคงมีแชร์ส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้หากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น กำลังซื้อที่อั้นไว้ก็น่าจะทะลักออกมา
