ธปท.เผยเศรษฐกิจ ส.ค.58 ยังอ่อนแอจากส่งออกหดตัวแรง และภาคท่องเที่ยวขยายตัวต่ำลง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมยังสะท้อนความระมัดระวังในการใช้จ่ายของครัวเรือน สอดคล้องต่อรายได้ครัวเรือนที่ลดลง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เปราะบาง ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อยผลกระทบจากส่งออกหดตัวแรง พร้อมระบุตั้งแต่ต้นปีเงินทุนไหลออกสุทธิ 5,900 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราเร่งในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน ส.ค.58 กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแอ การส่งออกสินค้าหดตัวมากขึ้นจากความต้องการจากจีน และอาเซียนที่ชะลอตัว จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราที่ต่ำลง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมยังสะท้อนความระมัดระวังในการใช้จ่ายของครัวเรือนสอดคล้องต่อรายได้ครัวเรือนที่ลดลง โดยเฉพาะรายได้นอกภาคเกษตร และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เปราะบาง
ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการนำเข้าสินค้าทุน และยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ปรับเพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราว สำหรับภาครัฐยังใช้จ่ายได้ต่อเนื่อง แม้แรงส่งจะลดลงบ้างหลังจากเร่งไปในช่วงก่อน
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง อัตราการว่างงานทรงตัว โดยแรงงานบางส่วนย้ายกลับเข้าสู่ภาคเกษตรหลังปริมาณน้ำฝนเอื้อต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องตามการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ
ธปท.ระบุว่า ในเดือน ส.ค.58 การส่งออกสินค้ายังคงซบเซา สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่หดตัวร้อยละ 9.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วในเกือบทุกหมวดสินค้าที่สำคัญ ได้แก่
1) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ และปิโตรเคมี เนื่องจากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าชะลอลงโดยเฉพาะจีน และอาเซียน อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง
2) สินค้าเกษตร จากข้าวที่อุปสงค์โลกชะลอตัว และมันสำปะหลังที่แม้ความต้องการจากจีนยังสูงแต่ผลผลิตในไทยมีจำกัดเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว
และ 3) ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ที่ผู้บริโภคในตลาดโลกเปลี่ยนไปนิยมสินค้าที่ใช้โซลิดสเตทไดรฟ์เป็นส่วนประกอบมากขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าบางหมวดยังขยายตัวได้ เช่น รถยนต์โดยเฉพาะอีโคคาร์ และรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปผลิต และประกอบเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ประเภทโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต
ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัว เพราะเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ และความไม่สงบทางการเมืองในมาเลเซีย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือนนี้ลดลงจากเดือนก่อนตามจำนวนนักท่องเที่ยวเอเชียเป็นหลัก อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวยังสูงกว่าในเดือนเดียวกันปีก่อน และตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับดีขึ้น โดยมีแนวโน้มจะกลับเป็นปกติในอีก 2-3 เดือน
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวถึงเงินบาทที่ยังอ่อนค่าลงในเดือน ส.ค. โดยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แต่เชื่อว่าคงไม่น่าจะมีผลต่อการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้มากนัก เพราะค่าเงินในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยในปัจจุบันก็มีทิศทางอ่อนค่าเช่นเดียวกัน
“ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเกิดจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และเป็นการอ่อนค่าในทิศทางเดียวกับภูมิภาค”
ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมยังสะท้อนถึงความระมัดระวังในการใช้จ่ายของครัวเรือน เนื่องจากรายได้นอกภาคเกษตรปรับลดลง และรายได้เกษตรกรตกต่ำต่อเนื่อง รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังเปราะบาง เมื่อประกอบกับการที่สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนที่มีมูลค่าสูง เช่น รถยนต์ จึงยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องต่อสินเชื่อยานยนต์ที่หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องชี้การใช้จ่ายในหมวดสินค้ากึ่งคงทนทรงตัวจากเดือนก่อน และหมวดสินค้าไม่คงทนขยายตัวบ้างจากการบริโภคน้ำมัน และหมวดบริการ โดยเฉพาะด้านการขนส่ง และการสื่อสาร
อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ยังไม่เข้มแข็ง และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ลดลง ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อน แต่ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว ตามการกลับมาทยอยผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่หลังเสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนสายการผลิต รวมทั้งการสะสมสต๊อกของสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่
ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการลงทุนด้านเครื่องจักร โดยมีการนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นตามการซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ ส่วนการลงทุนด้านก่อสร้างทรงตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการยังรอประเมินกำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นหลัก
การนำเข้าสินค้ามีมูลค่าลดลง 10.8% จากระยะเดียวกันปีก่อนตามการนำเข้าน้ำมันดิบที่ราคาปรับลดลง ขณะที่การนำเข้าสินค้ากลุ่มอื่นๆ แม้ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำสอดคล้องต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
การใช้จ่ายภาครัฐทำได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะแผ่วลงบ้างหลังจากที่เร่งเบิกจ่ายไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า โดยการเบิกจ่ายงบประจำยังคงขยายตัวตามการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ รวมทั้งการซื้อสินค้า และบริการ ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุนทั้งใน และนอกงบประมาณทำได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กด้านคมนาคมขนส่ง และชลประทาน สำหรับรายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และการนำส่งรายได้แผ่นดินเพิ่มเติมจากรัฐวิสาหกิจตามนโยบายของกระทรวงการคลัง
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ -1.19% เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงเป็นสำคัญ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.89% ชะลอลงเล็กน้อยจากการปรับลดค่าโดยสารสาธารณะตามต้นทุนน้ำมัน ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยมีแรงงานบางส่วนย้ายกลับเข้าสู่ภาคเกษตรหลังปริมาณน้ำฝนเอื้อต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีมากขึ้น
ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการนำเข้าสินค้าที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการปรับฐานะเงินตราต่างประเทศของสถาบันการเงิน และการขายหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยรวมแล้วดุลการชำระเงินขาดดุล
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2558 มีเงินทุนไหลออกสุทธิประมาณ 5,900 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการไหลออกจากทั้งตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรของไทยประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์และ 2,900 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
ทั้งนี้ การไหลออกของเงินทุนเร่งตัวขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้น รวมทั้งการปรับลดลงของตลาดหุ้นจีนที่ค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง ธปท.จะติดตามภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิดต่อไป