ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการมารีน่าและธุรกิจด้านเรือยอชต์มั่นใจภูเก็ต และอันดามันยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเรือยอชต์ จากความสวยงามของธรรมชาติ และความพร้อมของมารีน่า พร้อมตอกย้ำศักยภาพภูเก็ตเป็น “ริเวอร์ร่าแห่งเอเชีย”
ด้วยการเป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือระดับโลก และท่าจอดเรือ และสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานระดับสากล เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลของเอเชีย และภูเก็ตเป็นแหล่งล่องเรือยอดนิยมของคนรักการล่องเรือจากทั่วโลก รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ท่าจอดเรือระดับเวิลด์คลาสของภูเก็ต พร้อมด้วย ซิมป์สัน มารีน บริษัทชั้นนำที่ทำธุรกิจเรือยอชต์หรู พร้อมร่วมมือผลักดันธุรกิจล่องเรือไทย นำเสนอคุณภาพ และสุดยอดการบริการตอกย้ำศักยภาพภูเก็ตเป็น “ริเวอร์ร่าแห่งเอเชีย”
มิสเตอร์กูลู ลาวานี ประธานบริหาร รอยัล ภูเก็ต มารีน่า กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ล่องเรือในภูเก็ตมาหลายปีนั้น ทำให้ผมได้เห็นว่า ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการล่องเรือระดับเวิลด์คลาสอย่างแท้จริง และได้กลายเป็น “ริเวอร์ร่าแห่งเอเชีย” ด้วยวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นต่อภูเก็ตที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ ความตั้งใจที่จะพัฒนาท่าจอดเรือยอชต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ดึงดูดผู้มาเยือนคุณภาพ ตลอดจนได้รับความประทับใจและการบริการที่ดีที่สุดของภูเก็ต ทั้งนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ นักท่องเที่ยวเอเชียให้ความสนใจกับยอชต์ติ้งไลฟ์สไตล์มากขึ้น และท่าจอดเรือต่างๆ มีเรือจอดเต็ม ทั้งนี้ รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ได้มีการขยับขยายพัฒนาเพิ่มพื้นที่จอดเรือ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“นอกจากนั้น เรายังพบว่ามีเจ้าของเรือยอชต์จำนวนมากขึ้นเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ที่ภูเก็ต และจอดเรือที่ภูเก็ต เราจึงได้พัฒนา Dry Stack (ดรายด์ สแต็ค) หรือพื้นที่จอดเรือบนบกภายในรอยัล ภูเก็ต มารีน่า โดยสามารถรองรับเรือยนต์ที่มีขนาดความยาวสูงสุด 12 เมตร และทีมงานมืออาชีพคอยอำนวยความสะดวกในการเก็บเรือรักษาเรือ และเจ้าของเรือสามารถเรียกใช้บริการ ทีมงานสามารถจัดเตรียมเรือเพื่อพร้อมท่องเที่ยวไปในท้องทะเลที่สวยงามภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง” มิสเตอร์ลาวานี กล่าวเพิ่มเติม
จากการพัฒนาพื้นที่จอดเรือแบบ Dry Stack นี้จะทำให้รอยัล ภูเก็ต มารีน่า มี่พื้นที่จอดเรือยอชต์ได้จากเดิม 170 ลำ เป็น 296 ลำ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และพร้อมเปิดให้บริการในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2559 นี้
ทางด้านบริษัท ซิมป์สัน มารีน จำกัด ผู้ทำธุรกิจด้านเรือยอชต์ ไม่ว่าจะเป็นให้บริการซื้อขาย และเช่าเรือยอชต์ ที่มีประสบการณ์ และการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ปัจจุบัน มีพนักงานกว่า 100 คน และมีสำนักงานสาขากว่า 17 แห่งทั่วเอเชีย บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2527 โดยเปิดธุรกิจประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2547 โดยในปีนี้ ภายในงาน ภูเก็ต อินเตอร์ เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ 2016 นี้ ทางบริษัทได้นำเรือยอชต์ 6 ลำ มาจัดแสดงบนผืนน้ำ ด้วยความเชื่อมั่นว่าตลาดเรือยอชต์ภูเก็ต และประเทศไทยในอนาคตจะเติบโตขึ้นอีกมาก
มิสเตอร์ เซอจิโอ โลเคียโน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท ซิมป์ซัน มารีน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่าน เราพบว่ามีผู้ให้ความสนใจซื้อเรือยอชต์เพิ่มมากขึ้นในเมืองไทย ด้วยเหตุผลคือ ความสวยงามของทะเลอันดามันไทย และท้องทะเลใกล้เคียง พร้อมกับมีท่าจอดเรือมาตรฐานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในภูเก็ต และเจ้าของเรือยอชต์ส่วนใหญ่ที่ซื้อเรือเลือกที่จะจอดเรือยอชต์ไว้ที่ภูเก็ต”
ทั้งนี้ ทางบริษัท ซิมป์สัน มารีน เป็นตัวแทนของเรือยอชต์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์ เช่น Sanlorenzo, Monte Carlo, Monte Carlo Yachts, Beneteau Power, Beneteau Sail, CNB Yachts, Lagoon and Viking Yachts ประจำภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ในงานภูเก็ต อินเตอร์ เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์ ได้เรือ The Monte Carlo 4 และ Monte Carlo Yachts' range รุ่นโมเดล MCY86, MCY70, MCY65 และแคททามาแรน 2 รุ่น คือ the Lagoon 630 MY และ Lagoon 560 Imagine.
“ปีนี้เราได้นำเรือมาแสดงหลายรุ่นในงานภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดี และได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ ภูเก็ตนับเป็นตลาดที่มีความสำคัญของเรา โดยเรือยอชต์ที่นำมาจัดแสดงในปีนี้เป็นรุ่นที่ได้รับรางวัลถึง 3 รุ่น คือ Monte Carlo Yachts 86, Lagoon 630 Motor Yacht และรุ่นโมเดลพิเศษ Lagoon 560 Imagine” มิสเตอร์โลเคียโน กล่าวเพิ่มเติม
ภูเก็ต และประเทศไทย ยังเป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือยอชต์ที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาค แต่ละปีจะมีเจ้าของเรือจากทั่วโลกต่างจับตา และให้ความความสนใจที่จะเดินทางมาภูมิภาคเอเชีย จึงส่งผลให้ภูเก็ตกลายเป็นเป้าหมายที่สำคัญ และจะเติบโตขึ้นอีกในอนาคต
