หุ้นเช้าซึม ดัชนีฯ ปิดลบ 6.70 จุด ตามตลาดต่างประเทศ โบรกฯ เผยตลาดเจอหลายปัจจัยกดดัน ทั้งใน และนอกประเทศ ชี้ภาพรวมในระยะสั้นตลาดฯ ไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเท่าไร มีแต่การลงทุนของภาครัฐฯ ซึ่งก็เป็นเรื่องระยะยาว อีกทั้งทิศทางเงินทุนของต่างชาติเป็นลักษณะการไหลออกมากกว่า ดังนั้น การเล่นหุ้นของนักลงทุนจึงเล่นเป็นรายตัวมากกว่า
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในลักษณะซึมคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้าตามดาวโจนส์ที่เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ปรับตัวลง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเศรษฐกิจของจีนด้วย ซึ่งภาพโดยรวมเศรษฐกิจโลกเป็นไปในทิศทางที่ชะลอตัว ตอนนี้ก็ดูอยู่ว่าแต่ละประเทศที่เศรษฐกิจชะลอตัวจะมีมาตรการเสริมอะไรออกมาหรือเปล่า
ส่วนปัจจัยในประเทศก็ยังไม่ดี ภาพโดยรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากตัวเลขการส่งออกที่ปรับตัวลงมาก และ Outlook ของกลุ่มแบงก์ในไตรมาส 3/58 ก็ไม่ดีเท่าไร ทำให้อาจจะมีการปรับลดประมาณการตามมาได้
ดังนั้น ในระยะสั้นตลาดฯ ไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเท่าไร มีแต่การลงทุนของภาครัฐฯ ซึ่งก็เป็นเรื่องระยะยาว อีกทั้งทิศทางเงินทุนของต่างชาติเป็นลักษณะการไหลออกมากกว่า ดังนั้น ตลาดฯ จึงได้รับแรงกดดันทั้งจากใน-นอกประเทศ การเล่นหุ้นของนักลงทุนจึงเล่นเป็นรายตัวมากกว่า
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,345.43 จุด ลดลง 6.70 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.50% มูลค่าการซื้อขาย 17,394.35 ล้านบาท โดยภาพรวมเช้านี้ดัชนีแกว่งในแดนลบตลอดช่วงเช้า
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า เท่าที่ดูยังไม่มีน่าจะมีปัจจัยอะไรเข้ามาช่วยหนุนตลาดฯ ได้ จะมีก็ต้องรอลุ้นตลาดในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ ถ้ามีทิศทางที่ดีอาจจะทำให้ตลาดบ้านเรารีบาวนด์ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด