บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแนวโน้มมีโอกาสปรับตัวรีบาวนด์ เผยมีแรงหนุนจาก Window dressing พร้อมระบุกลุ่มเป้าหมายหุ้นรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยรายสัปดาห์ (24-29 ก.ย.58) ยังถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ หลังจากจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือน ก.ย. ลดลงแตะ 47.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากระดับ 47.3 ในเดือน ส.ค.ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัวซึ่งมีนัยสำคัญว่าอาจจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่ยูโรโซนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นในเดือน ก.ย.ลดลงแตะ 53.9 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.3 ในเดือน ส.ค. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกภายในประเทศนั่นก็คือ การที่รัฐบาลอัดฉีดเงิน 1.36 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ SME และการให้เงินช่วยเหลือกองทุนหมู่บ้านในการออก “มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปลายปี 2558
นอกจากนี้ การเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐในโครงการที่ได้ศึกษาไว้แล้ว และขยายวงเงินมูลค่าโครงการที่ให้เอกชนร่วมลงทุนจากเดิม 1,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการร่วมลงทุนมากขึ้น การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องช่วยหนุนภาคการส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 และการทำ Window dressing ในช่วงปลายไตรมาส 3/2558
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า สัปดาห์นี้ถูกปัจจัยภายใน และนอกกดดัน ได้แก่ เจ้าหน้าที่ FED ย้ำแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง โดย GDP จีนมีแนวโน้มขยายตัว 6.9% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 7% จากตัวเลข PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน ก.ย. ที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี ประกอบกับความกังวลของนักลงทุนต่อการขายทำกำไรหุ้นในพอร์ตลงทุนของ SCB
ดังนั้น คาดว่า SET จะปรับตัวลงโดยมีแนวรับ 1,360-1,365 จุด ก่อนจะสามารถรีบาวนด์จากกระแสการทำ Window Dressing ในไตรมาส 3/2558 ช่วงปลายเดือนกันยายน
ทั้งนี้ แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่เป็นเป้าหมายการทำ Window dressing เช่น BANK รวมทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้าหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน FOMC ของเฟดที่มีมติในการประชุมช่วง 16-17 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา โดยให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ราคาทองเริ่มปรับลงอีกครั้งในกรอบแคบๆ หลังราคาทองขึ้นมาตอบรับข่าวดังกล่าว รวมถึงแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมครั้งต่อไปของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้ เพื่อรอดูทิศทางของดอกเบี้ยที่ชัดเจนอีกครั้ง
ดังนั้น ประเมินว่าราคาทองโลกขึ้นมาจบแนวขึ้นแท่งเทียน THREE WHITE CANDLESTICKS ช่วงใกล้จบแนวขึ้น ROUNDING BOTTOM ทำให้การขึ้นต่อเริ่มมีกรอบจำกัด ขณะที่แท่งเทียนเริ่มเรียงตัวเป็นแนวลงรอบใหม่ และลงมาต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ลดทอนแรงหนุนของสัญญาณ GOLDEN CROSS บวกค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับลง ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลง แนวรับ 1,105-1,100 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,150 -1,155 เหรียญต่อทรอยออนซ์